Print Sermon

เป้าหมายของเว็ปไซต์นี้คือจัดเตรียมบทเทศนาที่เขียนจากต้นฉบับ และในรูปแบบวีดีโอให้กับผู้รับใช้ และมิชชั่นนารีที่ไปรับใช้ในต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศในโลกที่สามที่ขาดแคลนพระคริสตธรรมหรือโรงเรียนอบรมพระคัมภีร์

ต้นฉบับของบทเทศนาเหล่านี้ถูกอ่านในคอมพิวเตอร์ประมาณ 1,500,000 เครื่อง และมากกว่า 221 ประเทศในแต่ละปี โปรดไปอ่านได้ที www.sermonsfortheworld.com ในขณะเดียวกันมีหลายร้อยคนดูวิดีโอบน YouTube และหลังจากนั้นคนเหล่านั้นก็จะย้ายจากดู YouTube มาอ่านเว็บไซต์ของเรา YouTube นำคนมาที่เว็บไซต์ของเรา บทเทศนาต้นฉบับนี้ถูกแปลออกเป็น 46 ภาษา และมีคนอ่านในคอมพิวเตอร์มากถึง 120,000 ทุก ๆ เดือน บทเทศนาต้นฉบับนี้ไม่สงวนลิขสิทธิ์ อนุญาตให้นักเทศนาสามารถนำไปใช้เทศน์ได้ นอกจากนี้ยังมีในรูปแบบวีดีโอเป็นร้อย ๆ ซึ่งเทศน์โดย ดร. ไฮเมอร์ส และนักศึกษาของท่าน บทเทศนาต้นฉบับไม่สงวน แต่จะสงวนเฉพาะในรูปแบบวีดีโอ กรุณาคลิกที่นี่เพื่อเรียนรู้ว่าจะสนับสนุนการประกาศพระกิตติคุณไปทั่วโลกได้อย่างไร

ตอนที่คุณเขียนหนังสือไปให้ ดร. ไฮเมอร์ส บอกท่านเสมอว่าคุณเขียนมาจากประเทศอะไร หรือท่านไม่ได้ตอบคุณ อีเมล์ของ ดร. ไฮเมอร์ส คือ rlhymersjr@sbcglobal.net




สาวกและวิญญาณชั่ว

DISCIPLES AND DEMONS
(Thai)

เขียนบทเทศนาโดย ดร. อาร์ เอล ไฮเมอร์ส จูเนียร์
และเทศนาโดย ศจ. จอห์น ซามูเอล คาเกน ฃที่คริสตจักรแบ๊บติวต์เทโบนาเคล
ลอสแอนเจลิส วันของพระเป็นเจ้าช่วงเช้า 22 กรกฎาคม 2018
A sermon written by Dr. R. L. Hymers, Jr.
and preached by Rev. John Samuel Cagan
at the Baptist Tabernacle of Los Angeles
Lord’s Day Morning, July 22, 2018


นี่คือการศึกษาครั้งที่สามที่เราสอนเกี่ยวกับการฝึกอบรมสาวกของพระองค์ ขณะที่เราปฏิบัติตามพระเยซูในการฝึกอบรมพวกเขา เพื่อเราจะเรียนรู้ถึงวิธีการฝึกสาวกในทุกวันนี้

พระเยซูไม่ได้ฝึกสาวกของพระองค์ในแบบที่คริสตจักรของเราพยายามที่จะฝึกคนหนุ่มสาวในทุกวันนี้ เราควรใส่ใจกับวิธีการที่พระเยซูทรงสร้างสาวก เพราะพระองค์ทรงประสบความสำเร็จอย่างมาก ส่วนคริสตจักรของเรากลับมักจะล้มเหลว ข้อผิดพลาดประการหนึ่งที่พบในทุกวันนี้คือพยายามที่จะให้สาวกกลับใจใหม่ก่อนที่เราจะสอนให้พวกเขาเป็นสาวก แต่พระเยซูทรงใช้เวลาสามปีในการสอนสาวกของพระองค์ก่อนที่พวกเขาจะบังเกิดใหม่อีกครั้ง (ยอห์น 20:22 ดู J. Vernon McGee และ Thomas Hale) นั่นคือความแตกต่างที่เป็นสำคัญระหว่างสิ่งที่พระเยซูทรงทำและสิ่งที่เราพยายามทำในทุกวันนี้

ข้อแตกต่างที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งก็คือเรื่องที่พระเยซูคริสต์ได้สอนไว้ ตอนพระเยซูตรัสเรียกพวกเขาและตรัสว่า "และเราจะตั้งท่านให้เป็นผู้หาคนเหมือนคนหาปลา”" (มาระโก 1:17) พระองค์ทรงฝึกฝนพวกเขาด้วยจุดมุ่งหมายที่สำคัญอย่างหนึ่งเพื่อช่วยผู้อื่นให้เป็นสาวก พระเยซูตรัสกับพวกเขาว่านั้นคือเป้าหมายของพระองค์ตั้งแต่เริ่มแรก และนั่นก็คือเป้าหมายของผมด้วยเช่นกัน ผมไม่ได้อยู่ที่นี่เพื่อสอนเรื่องพระคัมภีร์ให้กับคุณเช่นเดียวกับที่พวกเขาทำในชั้นเรียนระวีวาระศึกษา เป้าหมายของฉผมคือการสอนให้คุณกลายเป็นผู้เอาชนะฝ่ายจิตวิญญาณเพื่อนำคนอื่น ๆ มาที่พระเยซูคริสต์และนำจิตวิญญาณที่สูญหายมาพบกับพระองค์ พระเยซูคริสต์ตรัสกับพวกเขาตั้งแต่เริ่มแรก (ดูมาระโก 1: 16-20)

สิ่งที่สองที่พระเยซูทรงสอนให้พวกเขาคือจะจัดการอย่างไรกับซาตานและสมุนของมัน ดูมาระโก 1: 21-27

“พระองค์กับพวกของพระองค์จึงเข้าไปในเมืองคาเปอรนาอุม และพอถึงวันสะบาโตพระองค์ได้เสด็จเข้าไปในธรรมศาลาเทศนาสั่งสอน เขาทั้งหลายก็อัศจรรย์ใจด้วยคำสั่งสอนของพระองค์ เพราะว่าพระองค์ได้ทรงสั่งสอนเขาด้วยสิทธิอำนาจ หาเหมือนพวกธรรมาจารย์ไม่ มีชายคนหนึ่งในธรรมศาลาของเขามีผีโสโครกเข้าสิง มันได้ร้องออกมาว่า “พระเยซูชาวนาซาเร็ธ ปล่อยเราไว้ เราเกี่ยวข้องอะไรกับท่านเล่า ท่านมาเพื่อจะทำลายเราหรือ เรารู้ว่าท่านเป็นผู้ใด ท่านคือองค์บริสุทธิ์ของพระเจ้า พระเยซูจึงตรัสห้ามมันว่า เจ้าจงนิ่งเสีย ออกมาจากเขาซิ และเมื่อผีโสโครกทำให้คนนั้นชักและร้องเสียงดังแล้ว มันก็ออกมาจากเขาคนทั้งปวงก็ประหลาดใจนักจึงถามกันว่า การนี้เป็นอย่างไรหนอ คำสั่งสอนใหม่นี้คืออะไร ท่านสั่งผีโสโครกด้วยสิทธิอำนาจและมันก็เชื่อฟังท่าน” (มาระโก 1:21-27)

ลองดู สิ่งที่สองที่พระเยซูตรัสให้กับสาวกสี่คนแรกนั้นเกี่ยวกับฤทธิ์อำนาจของพระองค์เหนือซาตาน พระคัมภีร์ฉบับ The Reformation Study Bible (หน้า 290) กล่าวว่า

วิญญาณชั่วคือทูตสวรรค์ที่หลงทำชั่ว…พวกมันเข้าร่วมกับวาตานเพื่อกบฏต่อต้านพระเจ้า พวกมันจึงถูกขับไล่ออกจากสวรรค์…วิญญาณชั่วเป็นอาวุตของซาตานทหน้าที่คือหลอกลวง และทำร้าย [ใช้] ในรูปแบต่าง ๆ พวกหมันทำสงครามฝ่ายวิญญาณ (เอเฟซัส6:10-18)

ในฐานะสาวกใหม่พระเยซูต้องการให้คุณรู้เกี่ยวกับซาตานและสมุนของมัน ชายคนหนึ่งที่ถูกวิญญาณชั่วครอบงำ ในพระคัมภีร์ฉบับคิงเจมส์ตามคำภาษากรีกคำว่าวิญญาณถูกแปลว่า "ชั่วร้าย" ดูไปที่มาระโก 1:39,

“พระองค์ได้ประกาศในธรรมศาลาของเขาทั่วแคว้นกาลิลี และได้ขับผีออกเสียหลายผี” (มาระโก 1:39)

เมื่อคุณกลายเป็นสาวกของพระเยซู คุณต้องตระหนักว่ามารนั้นอยู่รอบตัวคุณ คนตามารทำให้คนบาบอดจากพระคัมภีร์ มารพยายามทำให้คุณกลัวและทำให้คุณไม่อยากมาคริสตจักรของเรา มารจะพยายามขัดขวางคุณไม่ให้กลายเป็นคริสเตียน ดร. โทมัสเฮลกล่าวว่า

เราต้องจำไว้ว่า การครอบครองของวิญญาณชั่วไม่ได้เป็นในรูปแบบของคนที่เป็นโรคทางจิต ปีศาจหรือวิญญาณชั่วร้ายเป็นทาสของหัวหน้าปีศาจของมันคือซาตาน พวกเขาเป็นวิญญาณชั่วร้าย เมื่อพวกเขาเข้าไปในมนุษย์ พวกเขาทำให้คนเป็นเชลยหรือทาสของซาตาน เหล่าปีศาจเหล่านี้สามารถเอาชนะได้ด้วยอำนาจของพระเยซูและมนุษย์ถึงจะได้รับอิสรภาพ (Thomas Hale, M.D., The Applied New Testament Commentary; note on Mark 1:21-28)

วิญญาณชั่วครอบงำมนุษย์โดยการใช้ยาเสพติด ความลึกลับและรูปแบบอื่น ๆ ซึ่งเป็นการกบฏต่อพระเจ้า

"แม้" มีคนพูดว่า "ฉันไม่ได้เสพยา ฉันไม่ได้มีส่วนร่วมในเรื่องลึกลับ ฉันไม่ได้ทำสิ่งเหล่านี้" ผมดีใจที่คุณไม่ได้ไปนี้ไกลกว่านี้ในเรื่องการทำบาป แต่อย่างไรก็ตามความคิดของคุณได้รับการสร้างสรรค์ขึ้นโดย "เจ้าแห่งอำนาจขแห่งอาวากาศ" (ซาตาน เอเฟซัส 2: 2) ดังนั้นความคิดที่ไม่ได้ตั้งใจของคุณจึงถูกกระตุ้นโดยซาตาน "เจ้าแห่งอำนาจของอากาศ"

สิ่งที่สองที่ซาตานทำคือการทำให้คุณตาบอดในเรื่องความจริง ฟังในข้อ 2 โครินธ์ 4: 3-4

“แต่ถ้าข่าวประเสริฐของเราถูกบังไว้จากใคร ก็จากคนเหล่านั้นที่กำลังจะพินาศ ส่วนคนที่ไม่เชื่อนั้น พระของยุคนี้ได้กระทำใจของเขาให้มืดไป เพื่อไม่ให้ความสว่างของข่าวประเสริฐอันมีสง่าราศีของพระคริสต์ ผู้เป็นพระฉายของพระเจ้า ส่องแสงถึงพวกเขา” (2 โครินธ์ 4:3-4)

"พระเจ้าแห่งโลกนี้" แปลว่า "พระเจ้าแห่งยุคนี้" ซาตานเป็นพระเจ้าแห่งยุคนี้ ซาตานทำให้ "คนที่ไม่เชื่อ" ตาบอด คุณอาจสงสัยว่าทำไมคุณไม่เข้าใจข่าวประเสริฐของพระคริสต์ คำตอบนั้นง่าย - พระเจ้าในยุคนี้ [ซาตาน] ทำให้คุณตาบอด แต่พระคริสต์ทรงมีอำนาจมากยิ่งกว่าซาตานหรือวิญญาณชั่วใด ๆ ของมัน นั่นเป็นเหตุที่พระคริสต์ทรงขับผีออกในเมืองคาเปอรนาอุมได้อย่างง่ายดาย พระคริสต์ตรัสว่า "จงออกมาจากเขา" และผีก็ "ออกมาจากเขา" (มาระโก 1:25, 26)

ถ้าคุณต้องการเป็นคริสเตียนแท้และศิษย์ของพระเยซูคริสต์เราจะต้องกำจัดความคิดของซาตานให้หมดไป หนึ่ง ฮิปปี เคยบอก ดร. ไฮเมอร์ส ว่า "ฉันต้องการถูกล้างสมอง" นั่นเป็นวิธีที่รุนแรงเกินไป ชายหนุ่มคนนี้ต้องการอะไรคือการทำความสะอาดจิตใจของเขาโดยพระเยซู วิธีการที่พระเยซูทรงทำได้ง่ายมาก พระองค์ทรงล้างความคิดของคุณด้วยพระวจนะของพระเจ้า - พระคัมภีร์พูดถึง "การล้างน้ำด้วยคำพูด" (เอเฟซัส 5:26) สดุดี 119: 130 กล่าวว่า

“การคลี่คลายพระวจนะของพระองค์ให้ความสว่าง ทั้งให้ความเข้าใจแก่คนรู้น้อย” (สดุดี 119:130)

คุณต้องการที่จะเป็นสาวกของพระเยซูหรือไม่? นี่เป็นวิธีปฏิบัติที่จะเริ่มต้น อ่านบทเทศนาต้นฉบับของดร. ไฮเมอร์สในเว็บไซต์ของเราทุกคืนก่อนที่คุณจะเข้านอน คุณสามารถเข้าไปที่เว็บไซต์ของเราอที่ www.sermonsfortheworld.com ถ้าคุณอ่านบทเทศนาของ ดร. ไฮเมอร์ส ทุกคืนก่อนที่คุณจะเข้านอนข้อพระคัมภีร์และข้อคิดเห็นเหล่านั้นจะชำระจิตใจของคุณและคุณจะไว้วางใจพระเยซู และจะได้รับการช่วยกู้ชีวิต! โปรดยืนและร้องเพลงนมัสการบทที่ 5 "ฉันรู้ว่าพระคัมภีร์เป็นความจริง" หรือ “I Know the Bible is True”

ฉันรู้ว่าพระคัมภีร์ถูกส่งมาจากพระเจ้าทั้งเดิมและใหม่
   บันดาลใจและบริสุทธิ์มีชีวิตฉันรู้ว่าพระคัมภีร์เป็นความจริง
ฉันรู้ ฉันรู้ ฉันรู้ว่าพระคัมภีร์เป็นความจริง
   ทุกถ้อยคำได้รับการดลใจโดยพระเจ้า ฉันรู้ว่าพระคัมภีร์เป็นความจริง

ฉันรู้ว่าพระคัมภีร์เป็นความจริงทั้งหมดเพื่อทำให้ฉันอยู่ภายในนั้น
   ค้นพบว่าฉันสบายใจทุกวันและทำให้ฉันได้รับชัยชนะจากบาป
ฉันรู้ ฉันรู้ ฉันรู้ว่าพระคัมภีร์เป็นความจริง
   ทุกถ้อยคำได้รับการดลใจโดยพระเจ้า ฉันรู้ว่าพระคัมภีร์เป็นความจริง

แม้ว่าศัตรูจะปฏิเสธถ้อยคำเก่า ๆเหล่านั้น แต่สำหรับฉันใหม่เสมอ
   ความจริงมันหวานมากทุกครั้งที่บอกฉันรู้ว่าพระคัมภีร์เป็นความจริง
ฉันรู้ ฉันรู้ ฉันรู้ว่าพระคัมภีร์เป็นความจริง
   ทุกถ้อยคำได้รับการดลใจโดยพระเจ้า ฉันรู้ว่าพระคัมภีร์เป็นความจริง
(“I Know the Bible is True,” Dr. B. B. McKinney, 1886-1952).

ตอนที่คุณเขียนหนังสือไปให้ ดร. ไฮเมอร์ส บอกท่านเสมอว่าคุณเขียนมาจากประเทศอะไร หรือท่านไม่ได้ตอบคุณ หากคุณได้รับพระพรจากบทเทศนานี้ ดร. ไฮเมอร์ส อยากจะได้ยินจากคุณ ตอนที่เขียนจดหมายถึง ดร. ไฮเมอร์ส กรุณาบอกท่านว่าคุณเขียนมาจากประเทศอะไร หรือหากท่านไม่อาจตอบอีเมลล์ของท่าน หากบทเทศนานี้เป็นพระพรให้กับคุณ กรุณาเขียนอีเมล์ส่งไปให้ ดร. ไฮเมอร์ส และบอกท่านว่าคุณเขียนมาจากประเทศอะไร และนี่คืออีเมล์ของดร.ไฮเมอร์ส – rlhymersjr@sbcglobal.net (คลิกที่นี่) คุณสามารถเขียนถึง ดร. ไฮเมอร์ส ในภาษาของคุณ แต่หากเป็นไปได้ก็ขอให้เขียนเป็นภาษาอังกฤษ หรือเขียนส่งจดหมายส่ง ดร. ไฮเมอร์ส ทางไปรษณีตามที่อยู่นี้ P.O. Box 15308, Los Angeles, CA 90015. คุณสามารถโทรศัพท์ไปท่านได้ที่ (818)352-0452

(จบการเทศนา)
คุณสามารถอ่านบทเทศนาของ ดร.ไฮเมอร์ส ในแต่ละสัปดาห์ทางอินเทอร์เน็ทได้ที่
at www.sermonsfortheworld.com.
คลิกที่นี่) “บทเทศนาในภาษาไทย”

หมายเหตุ: ต้นฉบับของบทเทศนาเหล่านี้ไม่ได้สงวนลิขสิทธิ์
คุณสามารถนำไปใช้โดยที่ไม่ต้องขออนุญาตจาก ดร. ไฮเมอร์ส
แต่อย่างไรก็ตามข้อความทั้งหมดของ ดร. ไฮเมอร์ส
ที่อยู่ในรูปวิดีโอนั้นมีการสงวนลิขสิทธิ์และต้องได้รับการอนุญาตเท่านั้นถึงจะสามารถนำมาใช้ได้

ร้องเพลงเดี่ยวก่อนเทศนาโดย ผป. เบนจามิน คินเคด กรี่ฟีทท์:
“I Know the Bible is True” (Dr. B. B. McKinney, 1886-1952)