Print Sermon

เป้าหมายของเว็ปไซต์นี้คือจัดเตรียมบทเทศนาที่เขียนจากต้นฉบับ และในรูปแบบวีดีโอให้กับผู้รับใช้ และมิชชั่นนารีที่ไปรับใช้ในต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศในโลกที่สามที่ขาดแคลนพระคริสตธรรมหรือโรงเรียนอบรมพระคัมภีร์

ต้นฉบับของบทเทศนาเหล่านี้ถูกอ่านในคอมพิวเตอร์ประมาณ 1,500,000 เครื่อง และมากกว่า 221 ประเทศในแต่ละปี โปรดไปอ่านได้ที www.sermonsfortheworld.com ในขณะเดียวกันมีหลายร้อยคนดูวิดีโอบน YouTube และหลังจากนั้นคนเหล่านั้นก็จะย้ายจากดู YouTube มาอ่านเว็บไซต์ของเรา YouTube นำคนมาที่เว็บไซต์ของเรา บทเทศนาต้นฉบับนี้ถูกแปลออกเป็น 46 ภาษา และมีคนอ่านในคอมพิวเตอร์มากถึง 120,000 ทุก ๆ เดือน บทเทศนาต้นฉบับนี้ไม่สงวนลิขสิทธิ์ อนุญาตให้นักเทศนาสามารถนำไปใช้เทศน์ได้ นอกจากนี้ยังมีในรูปแบบวีดีโอเป็นร้อย ๆ ซึ่งเทศน์โดย ดร. ไฮเมอร์ส และนักศึกษาของท่าน บทเทศนาต้นฉบับไม่สงวน แต่จะสงวนเฉพาะในรูปแบบวีดีโอ กรุณาคลิกที่นี่เพื่อเรียนรู้ว่าจะสนับสนุนการประกาศพระกิตติคุณไปทั่วโลกได้อย่างไร

ตอนที่คุณเขียนหนังสือไปให้ ดร. ไฮเมอร์ส บอกท่านเสมอว่าคุณเขียนมาจากประเทศอะไร หรือท่านไม่ได้ตอบคุณ อีเมล์ของ ดร. ไฮเมอร์ส คือ rlhymersjr@sbcglobal.net




การเข้าแผ่นดินสวรรค์
ผ่านทางการทนทุกข์อย่างมาก

ENTERING THE KINGDOM
THROUGH MUCH TRIBULATION
(Thai)

โดย ดร. อาร์ เอล ไฮเมอร์ส จูเนียร์
by Dr. R. L. Hymers, Jr.

บทเทศนาที่คริสตจักรแบ๊บติสต์ในนครลอสแอนเจลิส
ในตอนเย็นวันของพระเป็นเจ้าที่ 24 เมษายน ค.ศ. 2016
A sermon preached at the Baptist Tabernacle of Los Angeles
Lord’s Day Morning, April 24, 2016

“และเมื่อท่านทั้งสองได้ประกาศข่าวประเสริฐในเมืองนั้น และได้สั่งสอนคนเป็นอันมาก จึงกลับไปยังเมืองลิสตรา เมืองอิโคนียูมและเมืองอันทิโอกอีกกระทำให้ใจของสาวกทั้งหลายถือมั่นขึ้น เตือนเขาให้ดำรงอยู่ในความเชื่อ และสอนว่า เราทั้งหลายจำต้องทนความยากลำบากมากจนกว่าจะได้เข้าในอาณาจักรของพระเจ้า” (กิจการ 14:21-22)


ไม่นานมานี้ผมได้ยินผู้ชายสองคนบอกว่า ผมควรจะหยุดเล่าเกี่ยวกับการแตกแยกของคริสตจักรได้แล้ว เพราะมันผ่านไปถึง 25 ปีแล้ว พวกเขาบอกว่าผมควรจะเทศนาเกี่ยวกับอนาคตและอย่าไปวิจารณ์สิ่งที่ผ่านมาในอดีต ตอนนี้ผมเองก็ยอมรับฟังการวิพากษ์วิจารณ์เหล่านั้ย โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากเพื่อนๆ และอนุชนสองคนนั้นก็เป็นเพื่อนของผมเช่นกัน แต่สิ่งที่พวกเขาพูดมานั้นผิด! ผิดโดยสิ้นเชิง! ในความเป็นจริงผมน่าจะเทศน์เกี่ยวกับการแตกแยกของคริสตจักรให้มากกว่านี้ และพระเจ้าก็ทรงแสดงให้ผมเห็นว่าน่าจะเทศน์อีกครั้งและอีกครั้งและอีกครั้ง - จนกว่าข้อความเหล่านั้นแทรกซึมเข้าไปในใจของคุณและเปลี่ยนแปลงชีวิตของคุณ! แล้วเราต้องพูดถึงอีกให้มากกว่าเดิม! ใช่มากขึ้นและมากขึ้น - อีกครั้งอีกครั้งและอีกครั้ง!

เป็นเรื่องเล่าที่ง่ายๆ คือว่าตอนนั้นเรามีประมาณ 500 คนในคริสตจักรของเรา แต่มี "ผู้นำ" คริสตจักรบางคนในสมัยนั้นบอกว่าผมเป็นคนที่มองในแง่ลบมากเกินไป เขากล่าวว่าผมเรียกร้องจากผู้คนมากเกินไป

เขาเรียกผมว่าทรราชและจอมเผด็จการเพราะผมเทศนาเหมือนที่พระคริสต์ทรงเทศน์ - "ผู้ใดมิได้แบกกางเขนของตนตามเรามา ผู้นั้นจะเป็นสาวกของเราไม่ได้" (ลูกา 14:27) จากนั้นก็มีสมาชิกสี่ร้อยคนแยกออกจากเรา เพื่อไปใช้ชีวิตแบบ "ง่ายๆ" แล้วเกิดอะไรขึ้นให้กับพวกเขา? "อดีตผู้นำ" ที่แยกออกเหล่านั้นมีสมาชิกมานมัสการที่คริสตจักรที่ชอบอะไรแบบ "ง่ายๆ" แค่ประมาณสิบสี่หรือสิบห้าคนในทุกวันอาทิตย์ตอน นอกจากนี้ยังมีการแตกแยกออกไปเป็นอีกสี่กลุ่ม ในกลุ่มเหล่านั้นไม่ใครที่สามารถนำคนอื่นมาเชื่อได้ และไม่สามารถทำอะไรให้กับพระเจ้าได้เลย มีชีวิตฝ่ายวิญญาณที่เหี่ยวแห้งขึ้นทุกวัน และพวกเขาก็ถูกลมพัดปลิวไปเหมือนใบไม้ร่วง พระคริสต์ตรัสว่า “ผู้ใดมิได้แบกกางเขนของตนตามเรามา ผู้นั้นจะเป็นสาวกของเราไม่ได้” (ลูกา 9:62)

ใช่ ผมกำลังจะเทศนาเรื่อง "39 คน" คนที่กู้อาคารหลังนี้ และกำลังจะเทศนาถึงสี่ร้อยคนที่แยกตัวออกจากเราไปใช้ชีวิตอย่างชาวโลก! ใช่ นี่คือตัวผม! บางคนในคริสตจักรที่กบฏและไม่เติบโตพูดว่า "เขาเป็นชายชราคนหนึ่งที่เป็นโรคมะเร็งและพูดได้อีกไมานานแล้ว" อย่าไปได้ใจ! ผมยังไม่ตาย! และในเช้านี้ผมเกลียดแอนโตนีเมีิยนิยน และพวกอีเจลิคอล์ใหมที่อ่อนแอเหมือนที่ผมเคยเกลียดในสี่สิบปีที่ผ่านมา! ใช่ เกลียดชังเป็นคำที่เหมาะสมสำหรับพวกเขาแล้ว ผมเกลียดมัน! เกลียด - เกลียด! เกลียดชังแบบจริงใจและบริสุทธิ์เหมือนอย่างที่พระคริสต์ทรงเกลียดมัน! พระคัมภีร์กล่าวว่า "จงเกลียดความชั่วและรักความดี" (อาโมส 5:15)

พระคริสต์ทรงตรัสให้คริสตจักรเลาดีเซียที่อ่อนแอ พวกแอนโตนีเมีย พวกอีเวนเจลิคอล์ใหม่ที่ขี่เกียจว่า “เราจะคายเจ้าออกจากปากของเรา” (วิวรณ์ 3:16) ใช่ “เราจะคายเจ้าออกจากปากของเรา” (Ryrie, NASV margin). “เราจะคายเจ้าออก! “เราจะคายเจ้าออก! “เราจะคายเจ้าออก! คายออก สำ รอดออก - จากปากของเรา ดร. ชาร์ลส์ ไรย์รี กล่าวถึงข้อนี้ว่า "อุ่นๆหรือกลางๆหรือไม่เอาอย่างใดอย่างหนึ่ง ... คริสตจักรเช่นนี้เป็นที่น่ารังเกียจให้กับพระเจ้าและสร้างความเสียหายให้กับพระประสงค์ของพระองค์" (Ryrie Study Bible; อ้างจากวิวรณ์ 3:16)

วิธีการรักษาอาการอุ่นๆไม่เย็นไม่ร้อนนั้นคืออะไร? อะไรคือการรักษาความเกียจคร้านของพวกอีเวนเจลิคอล์ใหม่และพวกมักชอบก่อกบฎ? การรักษาที่ถูกต้องมีอยู่ในข้อพระคำของเรา:

“เราทั้งหลายจำต้องทนความยากลำบากมากจนกว่าจะได้เข้าในอาณาจักรของพระเจ้า” (กิจการ 14:22).

อัครสาวกเปาโลและบารนาบัสผู้ช่วยของเขากลับไปยังเมืองลิสตราเนี่ยมและอันทีโอค พวกเขากลับไปที่เมืองเหล่านั้นเพื่อสอนคริสเตียนใหม่เหล่านั้นอีกครั้ง ดร. โทมัส เฮล ให้ความคิดเห็นถึงพระคำข้อนี้ว่า,

      มันไม่เพียงพอที่จะประกาศพระกิตติคุณในใดที่หนึ่งเพียงแค่ครั้งเดียว เพราะเป็นสิ่งจำเป็นที่ต้องสอนผู้เชื่อใหม่และเพื่อสร้างให้พวกเขาเติบโตในความเชื่อ และนี่คือสิ่งที่เปาโลและบารนาบัส ทำ กัน พวกเขาตักเตือน [ผู้เชื่อ] ใหม่ถึงการเข้าสู่อาณาจักรของพระเจ้าที่พวกเขาจะต้องทนกับความยากลำบาก หากพวกเขาต้องการที่จะติดตามพระคริสต และเป็นทายาทของพระองค์พวกเขาจะต้องทนทุกข์เพื่อพระองค์(Thomas Hale, M.D., The Applied New Testament Commentary, Chariot Victor Publishing, 1997; note on Acts 14:22)

ความคิดเห็นของเขาในข้อ 23, ดร. เฮล ชี้ให้เห็นว่าทุกคนที่เปาโลและบารนาบัสสอนนั้นล้วนเป็นคริสเตียนใหม่ เขาบอกว่าแม้แต่ "ผู้สูงอายุ" ในคริสตจักรเหล่านี้ "ถือว่าตัวเองเป็นผู้เชื่อใหม่" (อ้างข้อ 23) เปาโลและบารนาบัสสอนคริสเตียนใหมเหล่านี้์ว่า "เราทั้งหลายจำต้องทนความยากลำบากมากจนกว่าจะได้เข้าในอาณาจักรของพระเจ้า” (กิจการ 14:22) แมทธิว เฮนรรี่ให้ความเห็นว่า "ไม่เพียงแต่พวกเขาจะต้องทำ แต่เราก็ต้องทำ:ด้วย ทุกคนที่จะได้ไปสวรรค์ต้องเตรียใจพบกับความยากลำบากและการข่มเหง ... บางคนอาจคิดว่านี่สร้างให้คนตกใจ ทำ ให้กังวล ... ไม่เลยแต่กลับช่วยยืนยันให้พวกเขาและแก้ไขพวกเขาเพื่อพระคริสต์ ... ‘ทุกคนที่มีชีวิตอยู่ในในพระเยซูคริสต์ [จะ] ถูกข่มเหง ... การเป็นสาวกของพระคริสต์ทุกคนต้องแบกกางเขนของพวกเขา "(Matthew Henry’s Commentary on the Whole Bible; อ้างจากกิจการ 14:22)

พระคริสต์ข้าฯยอมสละทุกส่ิ่งและแบกกางเขนติดตามพระองค์
   ยากจน ถูกดูหมิ่น ถูกทอดทิ้งจากนี้ไปจะเป็นของข้าฯทั้งหมด
ความพินาศทุกความทะเยอทะยานที่ฉันได้พยายามและคาดหวังและรู้จักหายไป
   แต่บัดนี้อุดมไปด้วยความรักของพระองค์และสวรรค์ยังคงเป็นของข้าฯ!
(“Jesus, I My Cross Have Taken,” Henry F. Lyte, 1793-1847).

“เราทั้งหลายจำต้องทนความยากลำบากมากจนกว่าจะได้เข้าในอาณาจักรของพระเจ้า” (กิจการ 14:22).

I. ประการแรก การทนทุกข์ใหญ่จากการกลับใจใหม่

ข้อความนี้พูดถึง "เราทั้งหลายจำต้องทนความยากลำบากมากจนกว่าจะได้อาณาจักรของพระเจ้า”" คำภาษากรีกที่แปลว่า "ความยากลำบาก" คือ "thlipsis" มันหมายความว่า "ความดัน, ความเจ็บปวด, แบกภาระหนักทุกข์" (Strong) ลองคิดถึงบุคลลที่ได้กลับใจใหม่ในพระคัมภีร์ การกลับใจใหม่ของยาโคบคือหนึ่งในนั้น

“และยาโคบอยู่แต่ผู้เดียว และที่นั่นมีบุรุษผู้หนึ่งมาปล้ำสู้กับเขาจนเวลารุ่งสาง...และเบ้ากระดูกต้นขาของยาโคบก็เคล็ด เมื่อเขาปล้ำสู้กับพระองค์อยู่นั้น” (ปฐมกาล 32:24, 25)

ผู้ "ชาย" ที่ปล้ำกับยาโคบนั้นเป็นพระบุตรของพระเจ้า ยาโคบกล่าวว่า "เราได้เห็นพระเจ้าตัวต่อตัวและชีวิตของเราจะถูกรักษาไว้ และเมื่อเขาผ่านเปนูเอล ดวงอาทิตย์ก็ขึ้นเหนือเขา และเขาก็เดินโขยกเขยกไปเพราะกระดูกต้นขาของเขา [คือคลานไป NASV] บนต้นขาของเขา "(ปฐมกาล 32:30, 31) จากนั้นชีวิตของเขายาโคบเดินก็เดินกะโผลกกะเผลกไปตลอด เพราะเขาได้รับบาดเจ็บในคืนที่เขากลับใจใหม่ ชื่อของเขาก็เปลี่ยนจากยาโคบไปเป็นอิสราเอล "ซึ่งหมายความว่าเขาต่อสู้กับพระเจ้า" (Ryrie Study Bible) คิดกลับไปยังการกลับใจของคุณเอง คุณได้ต่อสู้กับพระเจ้าหรือไม่? นั่นไม่ใช่การต่อสู้ก่อนที่คุณไว้จะมาวางใจพรเคริสต์หรือ?

แล้วลองมาคิดเกี่ยวกับการกลับใจของเปาโล เขากำลังเผชิญหน้ากับพระคริสต์ตามเขากล่าวว่า “เราคือเยซู ที่เจ้าข่มเหง ซึ่งเจ้าถีบประตักก็ยากนัก” (กิจการ 9: 5) ดร. เฮนรี่ เอ็ม มอร์ริส กล่าวว่าเขา "ทำตัวเหมือนสัตว์ที่ปากแข็งไม่ยอมรับอาการปวด(The Defender’s Study Bible). “และรู้สึกประหลาดใจจึงถามว่า “พระองค์เจ้าข้า พระองค์ประสงค์จะให้ข้าพระองค์ทำอะไร?” (กิจการ 9:6)เปาโลตาบอดและอดอาหารเป็นเวลาสามวันก่อนที่เขาจะกลับใจใหม่ (กิจการ 9:17)

แล้วลองมาอ่านการกลับใจใหม่ของผู้นำาคริสเตียนบางคนในประวัติศาสตร์ อย่างเช่นออกัสติน ลูเทอร์ บันยันของ ไวท์ฟิวล์ด เวสลีย์ของ สเปอร์เจีบน คนเหล่านี้ทั้งหมดต่างเผชิญกับความยากลำบาก ความกดดัน ความเจ็บปวด ภาระหนักจากบาปและความทุกข์ลึกๆ - ก่อนที่พวกเขาจะมาวางใจในพระผู้ช่วยให้รอด คุณคิดว่าคุณสามารถจริงๆโดยที่ไม่ได้เผชิญกับความทุกข์บางอย่าง หรือความรู้สึกของความกดดัน ความปวดร้าวและภาระบาปอย่างนั้นหรือ? คุณสามารถตัดสินใจผิดพลาด แต่ไม่มีมนุษย์คนใดจะกลับใจใหม่อย่างแท้จริงได้หากไม่เชื่อเรื่องบาป มารซาตานจะบอกบางคนบอกว่า หากพวกเขาร้องไห้ก็คือพวกที่อ่อนแอ เพื่อให้พวกเขาไม่ "กล้า" พอที่จะเชื่อในเรื่องความบาป นี่มันไม่ใช่ผูู้กล้าที่แท้จริง! นั่นคือคนโง่ที่ปากแข็ง - ต่อต้านพระวิญญาณของพระเจ้า! ต่อต้านพระคริสต์ผู้ทรงสิ้นพระชนม์บนไม้กางเขนที่ทรงช่วยพวกเขา คนเช่นนั้นไม่ดีไปกว่าพวกมุสลิมที่คิดว่าเขาสามารถทำลายเด็กตัวเล็ก ๆ ข่มขืนผู้หญิงและตัดหัวคนด้วยดาบ คุณเคยร้องไห้เพราะความบาปของคุณหรือไม่ บางคนอาจบอกว่า "ไม่มีทางที่ผมจะทำอย่างนั้นได้" หรือบอกว่า "คุณคงไม่ทำให้ฉันกลายเป็นคนที่อ่อนแอ ฉันไม่ขี้แงหรอก!" คนอย่างนั้นเย่อหยิ่ง ผมบอกว่าคุณไม่ดีกว่ามารหรอก - คนที่ปฏิเสธที่จะนมัสการพระเจ้า! คนที่กลัวที่จะหลั่งน้ำตาเพราะความบาปผู้นั้นคือคนมีใจขี้ขลาดและเป็นคนจิตใจเย็นชา ไม่ใช่ "ลูกผู้ชาย" นั่นคือคนขี้ขลาดพูดเลอะเทอะเพราะที่กลัวที่จะสารภาพความผิดบาปของเขาต่อพระเจ้า!

“เราทั้งหลายจำต้องทนความยากลำบากมากจนกว่าจะได้เข้าในอาณาจักรของพระเจ้า” (กิจการ 14:22).

II. ประการที่สอง ความทุกข์ของการได้รับการชำระ

ไม่เพียงแต่จะพบกับความยากลำบากในช่วงที่กลับใจใหม่เท่านั้น - ความยากลำบายังจำเป็นการคริสเตียนที่เติบโตเป็นผู้ใหญ่ อัครสาวกเปาโลกล่าวว่า

“ยิ่งกว่านั้น เราชื่นชมยินดีในความทุกข์ยากด้วย เพราะเรารู้ว่าความทุกข์ยากนั้นทำให้เกิดความอดทน และความอดทนทำให้เกิดมีประสบการณ์ และประสบการณ์ทำให้เกิดมีความหวังใจ และความหวังใจมิได้ทำให้เกิดความละอาย เพราะเหตุว่าความรักของพระเจ้าได้หลั่งไหลเข้าสู่จิตใจของเรา โดยทางพระวิญญาณบริสุทธิ์ ซึ่งพระองค์ได้ประทานให้แก่เราแล้ว” (โรม 5:3-5)

ถึงแม้ผมไม่เห็นด้วยเลยกับ จอห์น แมคอาร์เทอร์ เกี่ยวการสอนถึงโลหิตของพระเยซูคริสต์ เพราะเขาสอนผิดในเรื่องที่สำคัญนี้! แต่ความคิดเห็นของเขาในโรม 5: 3-5 นั้นท่านกล่าวได้ถูกต้องว่า "ความทุกข์ยากลำบากครั้งใหญ่ คือคำที่ใช้ให้กับความกดดัน เหมือนผลไม้ที่ถูกบด ที่นี่ไม่ใช่ความกดดันของชีวิตที่เป็นแบบปกติธรรมดา แต่เป็นปัญหาที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ของผู้ที่จะเป็นสาวกของพระเยซูคริสต์ ... แต่ความยากลำบากเหล่านั้นสร้างผลดีมากมายให้กับชีวิตในฝ่ายทางจิตวิญญาณที่เต็มไปด้วยความอดทน ... คำนี้หมายถึงความอดทนที่สามารถทนอยู่ภายใต้ปัญหาหนักโดยที่ไม่มีวันที่จะยอมแพ้ ... คริสเตียนสามารถมีความชื่นชมยินดีภายใต้ความทุกข์เพราะส่ิ่งเหล่าทำให้เติบโตฝ่ายวิญญาณ " (The MacArthur Study Bible)

เราเป็นคริสเตียนที่แข็งแกร่งผ่านทางความยากลำบาก ผ่านความกดดันและการทดลองและความปวดร้าวใจ เมื่อผมได้ยินชายหนุ่มสองคนนั้นบอกว่าผมไม่ควรมาพูดถึงการแตกแยกคริสตจักรโอลิสอีก ผมรู้ได้เลยว่านั้นมันเป็นเสียงของซาตานที่ใส่ไว้ในใจของพวกเขา ผมรู้ว่าพวกเขาผิดอย่างมาก และนี่แหละทำให้ผมมุ่งมั่นมากขึ้นทจะเทศนาถึงสิ่งที่น่ากลัว และเพราะมีคนที่ซื่อสัตย์จึงสมารถรักษาอาคารคริสตจักนแห่งนี้เอาไว้ได้นี้ อย่าหวังเลยว่าคุณจะเป็นคริสเตียนที่แข็งแกร่งได้ ถ้าคุณปฏิเสธที่จะเดินผ่านการทดลองนี้ด้วยตัวเอง? เราเรียกคนที่กู้คริสตจักรของเราไว่าว่า "39คน" มีประมาณ 39 คนที่ยอมทนทุกข์พวกคุณถึงมีอาคารโบสถ์ที่สวยๆอย่างนี้ได้ พวกเขาเสียสละชีวิตของพวกเขาเพื่อคุณ ทำไมคุณถึงไม่กล้าพอที่จะพูดถึงพวกเขา? พวกที่ขี่้ขลาด! คุณไม่เคยเสียสละอะไรเพื่อพระเจ้าเลย! ไม่น่าแปลกใจเลยที่ดูเหมือนพระเจ้าไม่จริงให้กับคุณ! ไม่น่าแปลกใจที่คุณรู้สึกไม่ดีให้กับตัวเอง และสูญเสียความกระตือรือร้นและความเชื่อของคุณ! คุณต้องผ่านความยากลำบากเพื่อจะได้เป็นคริสเตียนที่ดีได้อย่าง "39 คน" นี้ ความทุกข์ยากใหญ่อะไรที่คุณได้เดินผ่านไปบ้าง? ไม่มีเลย! คุณใช้แต่ส่ิ่งที่คนอื่นตระเตรียมไว้หมดแล้ว! หากคุณยังปฏิเสธที่จะเดินผ่านการทดลองและแบกกางเขนและเสียสละ ไม่มีทางที่คุณจะเป็นคริสเตียนที่เข้มแข็งได้อย่างนางซาลาซาร์หรือคาร์ล่า ดีบาวต์ หรือ ดร. คาเกน รือเบนกริฟฟิ หรืออาเบล์ โพรมมีหรือนายซ่งหรือ นาง ไฮเมอร์ส ไม่มีทางที่คุณจะเป็นคริสเตียนที่ดีได้ ถ้าคุณปฏิเสธที่จะเสียสละชีวิตของคุณให้กับพระเยซูคริสต์!

บางท่านไม่ชอบ ดร. คาเกนมเทศนาถึงชีวประวัติของผมในคืนวันนั้น เพราะบางท่านคิดว่าผมเป็นคนที่มองในแง่ลบมากเกินไป "ใครต้องการที่จะผ่านส่ิ่งเหล่านั้นหรือเปล่าล่ะ?" ผมจะบอกคุณถ้าผมไม่ได้ผ่านไปในทาง ทุกวันนี้เราคงไม่มีอาคารโบสถ์แห่งนี้อีก! ถ้าผมไม่ผ่านไปในทางนั้นคุณคงไม่มีโอกาสมาอยู่ที่นี่ได้! พวก "เด็กๆ" คงจะไม่อยู่ที่นี่อีก! ผมพาพ่อแม่ของคุณมาเชื่อพระคริสต์ ผมประกอบพิธีแต่งงานของพวกเขา ผมอภิบาลพวกเขาในช่วงเวลาที่คริสตจักรเกิดหารแตกแยก เด็กอย่างพวกคุณคงไม่มีทางมาอยู่นี่ ถ้าผมไม่ได้ผ่านสิ่งทสร้างความเจ็บปวดและความทุกข์เหล่านั้น!

มีเพียงเด็กคนเดียวในคริสตจักรที่ส่งการ์ดอวยพรวันเกิดครบรอบ 75 ปีมาให้ผม! ส่วน "39คน" เหล่านั้นต่างก็ส่งการ์ดขอบคุณผม แตมีเเพียงเด็กในคริสตจักรคนเดียงที่ส่งการ์ดมาให้ผม เขาเป็นเด็กที่เกิดและรอดผ่านคริสตจักรแห่งนี้ เขาเขียนข้อความนี้ส่งมาให้ผม

กราบเรียน ดร. ไฮเมอร์ส

      สุขสันต์วันเกิดครบรอบ 75 ปี ขอพระเจ้าทรงอวยพรท่าน ที่ได้ซื่อสัตย์รับใช้พระเยซู! ผมรู้สึกขอบคุณพระเจ้าสำหรับอาจารย์อย่างท่าน! ขอขอบคุณท่านสำหรับทุกส่ิิ่งที่ทำ และมีชีวิตเพื่อพระเยซู ชีวิตของท่านเป็นพยานที่ยอดเยี่ยมสำหรับพระเยซู! ขอขอบคุณท่านสำหรับการเป็นตัวอย่างของผู้เชื่อที่ดี เพราะพระเยซูชีวิตของท่านถึงได้เป็นชีวิตที่ยอดเยี่ยม และชีวิตของท่านได้เป็นพระพรให้คนอีกมากมาย "ขอท่านจงมั่นคง ไม่หวั่งไหวต่อการับใช้พระเจ้า" ดร. ไฮเมอร์ส ท่านทำให้ผมจำพระคำข้อนี้ได้ คผมขออธิษฐานขอให้คริสตจักรนี้เคลื่อนไปข้างหน้าและมุ่งมั่นที่จะนำวิสัยทัศน์ของคุณที่มีต่อคริสตจักรแห่งนี้ให้เป็นดั่งสว่างของพระเยซู! พระเจ้าอวยพรท่านและให้นำพาท่านในพระนามของพระเยซู (และเขาเซ็นชื่อของเขา) ภายใต้ชื่อของเขาได้เขียนพระธรรมยอห์น 2:17.

“และโลกกับสิ่งยั่วยวนของโลกกำลังผ่านพ้นไป แต่ผู้ที่ประพฤติตามพระทัยของพระเจ้าก็ดำรงอยู่เป็นนิตย์”

ผมไม่ได้โกรธเด็กๆที่เหลือ ไม่เลย ผมแค่กลัวและเป็นห่วงดวงวิญญาณของคุณ ผมอธิษฐานให้คุณ บางครั้งตลอดทั้งคืน ผมเป็นห่วงคุณเพราะผมรู้ว่า

“เราทั้งหลายจำต้องทนความยากลำบากมากจนกว่าจะได้เข้าในอาณาจักรของพระเจ้า” (กิจการ 14:22).

ผมรู้ว่าถ้าคุณไม่สนใจ "39 คน" นี้ - ถ้าคุณไม่ได้รักพวกเขาและทำตามตัวอย่างของพวกเขาคือเสียสละตัวเอง - คุณจะไม่เป็นส่วนหนึ่งของคริสตจักรแห่งนี้ที่เดินตามความฝันและวิสัยทัศน์ของผม คนที่แข็งกระด้างมักพูดว่า "ผมจะไม่ทำอย่างนั่นหรอก" คือบุคคลที่ตกอยู่ในอันตราย คือไม่สามารถเข้าอาณาจักรของพระเจ้าได้ พระคัมภีร์กล่าวว่า "บุคคลที่ถูกตักเตือนบ่อย ๆ แต่ยังทำดื้อรั้น ประเดี๋ยวจะถูกทำลาย จึงรักษาไม่ได้" (สุภาษิต 29: 1) พระเยซูตรัสว่า

“เหตุฉะนั้น จงระลึกถึงสภาพเดิมที่เจ้าได้หล่นจากมาแล้วนั้น จงกลับใจเสียใหม่ และประพฤติตามอย่างเดิม มิฉะนั้นเราจะรีบมาหาเจ้า และจะยกคันประทีปของเจ้าออกจากที่ เว้นไว้แต่เจ้าจะกลับใจใหม่” (วิวรณ์ 2:5)

กรุณาเปิดเพลงนมัสการของคุณไปที่บทที่ 3 ในหนังสือเพลงของคุณ

ทั้งหมดเพื่อพระเยซู พระเยซูเท่านั้น! พละกำ ลังทั้งหมดของฉัน

   ทุกความคิดและคำพูดและการกระทำทุกวันของฉันและชั่วโมงทั้งหมดของฉัน
ทั้งหมดเพื่อพระเยซู! ทั้งหมดเพื่อพระเยซู! ทุกวันและเวลาของฉันทั้งหมด
   ทั้งหมดเพื่อพระเยซู! ทั้งหมดเพื่อพระเยซู! ทุกวันและเวลาของฉันทั้งหมด

ให้มือของฉันทำตามคำสั่งของพระองค์และเท้าของฉันทำงานในทางของพระองค์

   ขอให้ตาของฉันเห็นพระเยซูเท่านั้นให้ริมฝีปากของฉันสรรเสริญพระองค์
ทั้งหมดเพื่อพระเยซู! ทั้งหมดเพื่อพระเยซู! ให้ริมฝีปากของฉันสรรเสริญพระองค์
   ทั้งหมดเพื่อพระเยซู! ทั้งหมดเพื่อพระเยซู! ให้ริมฝีปากของฉันสรรเสริญพระองค์

ตั้งแต่ตาของฉันได้รับการรักษาในพระเยซูฉันจึงได้หายไปจากสายตาบอด
   ดังนั้นวิสัยทัศน์ฝ่ายจิตวิญญาณของฉันกำลังมองไปที่ไม้กางเขน
ทั้งหมดเพื่อพระเยซู! ทั้งหมดเพื่อพระเยซู! กำลังมองไปที่ไม้กางเขน
   ทั้งหมดเพื่อพระเยซู! ทั้งหมดเพื่อพระเยซู! กำลังมองไปที่ไม้กางเขน
(“All For Jesus,” Mary D. James, 1810-1883)

พระคริสต์ทรงสิ้นพระชนม์บนไม้กางเขนเพื่อชดใช้ความผิดบาปของคุณ พระองค์ทรงหลั่งโลหิตของพระองค์เพื่อชำระคุณจากบาปทั้งหมด พระองค์ทรงเป็นขึ้นมาจากความตาย เพื่อให้คุณมีชีวิตนิรันดร์ พระองค์ทรงประทับในสวรรค์ ณ เบื้องขวาพระหัตถ์ของพระเจ้า เมื่อคุณหันจากบาปและมาวางใจพระเยซูพระองค์ทรงช่วยให้คุณรอด หากคุณต้องการที่จะพูดคุยกับเราเกี่ยวกับการช่วยกู้โดยพระเยซู โปรดเดินตามดร. คาเกน ไปทางด้านหลังของหอประชุมในขณะนี้ อาเมน

หากคุณได้รับพระพรจากบทเทศนานี้ ดร. ไฮเมอร์ส อยากจะได้ยินจากคุณ ตอนที่เขียนจดหมายถึง ดร. ไฮเมอร์ส กรุณาบอกท่านว่าคุณเขียนมาจากประเทศอะไร หรือหากท่านไม่อาจตอบอีเมลล์ของท่าน หากบทเทศนานี้เป็นพระพรให้กับคุณ กรุณาเขียนอีเมล์ส่งไปให้ ดร. ไฮเมอร์ส และบอกท่านว่าคุณเขียนมาจากประเทศอะไร และนี่คืออีเมล์ของดร.ไฮเมอร์ส – rlhymersjr@sbcglobal.net (คลิกที่นี่) คุณสามารถเขียนถึง ดร. ไฮเมอร์ส ในภาษาของคุณ แต่หากเป็นไปได้ก็ขอให้เขียนเป็นภาษาอังกฤษ หรือเขียนส่งจดหมายส่ง ดร. ไฮเมอร์ส ทางไปรษณีตามที่อยู่นี้ P.O. Box 15308, Los Angeles, CA 90015. คุณสามารถโทรศัพท์ไปท่านได้ที่ (818)352-0452

(จบการเทศนา)
คุณสามารถอ่านบทเทศนาของ ดร.ไฮเมอร์ส ในแต่ละสัปดาห์ทางอินเทอร์เน็ทได้ที่
at www.sermonsfortheworld.com.
คลิกที่นี่) “บทเทศนาในภาษาไทย”

คุณสามารถส่งอีเมล์ถึง ดร. ไฮเมอร์ส ที่ rlhymersjr@sbcglobal.net
– หรือเขียนจดหมายส่งไปให้เขาที่ P.O. Box 15308, Los Angeles, CA 90015.
หรือโทรศัพท์ถึงเขาที (818) 352-0452.

หมายเหตุ: ต้นฉบับของบทเทศนาเหล่านี้ไม่ได้สงวนลิขสิทธิ์
คุณสามารถนำไปใช้โดยที่ไม่ต้องขออนุญาตจาก ดร. ไฮเมอร์ส
แต่อย่างไรก็ตามข้อความทั้งหมดของ ดร. ไฮเมอร์ส
ที่อยู่ในรูปวิดีโอนั้นมีการสงวนลิขสิทธิ์และต้องได้รับการอนุญาตเท่านั้นถึงจะสามารถนำมาใช้ได้

อ่านพระคัมภีร์ก่อนเทศนาโดยท่าน อาเบล บรูดโฮมมี: กิจการ 14:19-23.
ร้องเพลงเดี่ยวพิเศษโดยท่าน เบนจามิน คินเคด กรีฟีท:
“Living For Jesus” (Thomas O. Chisholm, 1866-1960).


โครงร่างของ

การเข้าแผ่นดินสวรรค์
ผ่านทางการทนทุกข์มาก

ENTERING THE KINGDOM
THROUGH MUCH TRIBULATION

โดย ดร. อาร์ เอล ไฮเมอร์ส จูเนียร์
by Dr. R. L. Hymers, Jr.

“เราทั้งหลายจำต้องทนความยากลำบากมากจนกว่าจะได้เข้าในอาณาจักรของพระเจ้า”
(กิจการ 14:21-22)

(ลูกา 14:27; 9:62; อาโมส 5:15; วิวรณ์ 3:16)

I.   ประการแรก ความทุกข์ของการกลับใจใหม่, ปฐมกาล 32:24, 25, 30, 31; กิจการ 9:5, 6, 17.

II.  ประการที่สอง ความทุกข์ของการได้รับการชำระ, โรม 5:3-5; 1 ยอห์น 2:17; สุภาษิต 29:1; วิวรณ์ 2:5.