Print Sermon

เป้าหมายของเว็ปไซต์นี้คือจัดเตรียมบทเทศนาที่เขียนจากต้นฉบับ และในรูปแบบวีดีโอให้กับผู้รับใช้ และมิชชั่นนารีที่ไปรับใช้ในต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศในโลกที่สามที่ขาดแคลนพระคริสตธรรมหรือโรงเรียนอบรมพระคัมภีร์

ต้นฉบับของบทเทศนาเหล่านี้ถูกอ่านในคอมพิวเตอร์ประมาณ 1,500,000 เครื่อง และมากกว่า 221 ประเทศในแต่ละปี โปรดไปอ่านได้ที www.sermonsfortheworld.com ในขณะเดียวกันมีหลายร้อยคนดูวิดีโอบน YouTube และหลังจากนั้นคนเหล่านั้นก็จะย้ายจากดู YouTube มาอ่านเว็บไซต์ของเรา YouTube นำคนมาที่เว็บไซต์ของเรา บทเทศนาต้นฉบับนี้ถูกแปลออกเป็น 46 ภาษา และมีคนอ่านในคอมพิวเตอร์มากถึง 120,000 ทุก ๆ เดือน บทเทศนาต้นฉบับนี้ไม่สงวนลิขสิทธิ์ อนุญาตให้นักเทศนาสามารถนำไปใช้เทศน์ได้ นอกจากนี้ยังมีในรูปแบบวีดีโอเป็นร้อย ๆ ซึ่งเทศน์โดย ดร. ไฮเมอร์ส และนักศึกษาของท่าน บทเทศนาต้นฉบับไม่สงวน แต่จะสงวนเฉพาะในรูปแบบวีดีโอ กรุณาคลิกที่นี่เพื่อเรียนรู้ว่าจะสนับสนุนการประกาศพระกิตติคุณไปทั่วโลกได้อย่างไร

ตอนที่คุณเขียนหนังสือไปให้ ดร. ไฮเมอร์ส บอกท่านเสมอว่าคุณเขียนมาจากประเทศอะไร หรือท่านไม่ได้ตอบคุณ อีเมล์ของ ดร. ไฮเมอร์ส คือ rlhymersjr@sbcglobal.net




ของประทานที่เหลือจะพรรณนา

THE UNSPEAKABLE GIFT
(Thai)

โดย ดร. อาร์ เอล์ ไฮเมอร์ส จูเนียร์
by Dr. R. L. Hymers, Jr.

เทศนาในตอนเช้าวันของพระเป็นเจ้าที่ 1 เดือนมกราคม ค.ศ. 2015 ณ
คริสตจักรแบ๊บติสต์แห่งนครลอสแอนเจลิส
A sermon preached at the Baptist Tabernacle of Los Angeles
Lord’s Day Evening, January 25, 2015

“ของประทานซึ่งพระองค์ทรงประทานนั้นที่เหลือจะพรรณนาได้”
(2 โครินธ์ 9:15).


ตอนกลางคืนในปี 1994 เกิดแผ่นดินไหวเขย่าบ้านของเรา นี่ทำให้ผมนึกถึงของมีค่าที่อยู่ในบ้านของเรา ผมคิดว่าไฟอาจจะไหม้บ้าน จะใช้อะไรดับไฟกันแน่? ถ้าผมเวลาแค่สามหรือสี่นาทีพอที่จะหลบหนี? ผมจะนำอะไรออกไปบ้าง? แล้วผมก็คิดว่าต้องรีบเข้าไปที่ห้องนอนของเราและเปิดลิ้นชักออกและผมจะนำเครื่องตัดผมออกมา เพราะนั่นเป็นชิ้นแรกที่เราซื้อมาตักผมลูก และผมก็จะคว้าเอารองเท้าเด็กสีบรอนซ์ที่อยู่ด้านบนโต๊ะเครื่องแป้งออกมาด้วย ถ้าผมยังมีอีกสักสองสามนาที ผมจะคว้ารูปถ่ายของแม่และของลูกชาย วินาทีถัดมาก็นำชุดแต่งงานของภรรยาที่บรรจุอยู่ในกล่อง และเอาพวกเครื่องปั้นดินเผาที่เป็นของขวัญในงานแต่งงานที่คนนำมาให้แม่ในปี 1934

สิ่งเหล่านั้นมีค่าสักเท่าไหร่เชียว? เกือบไม่มีค่าอะไรเลย คุณอาจจะขายชุดแต่งงานได้ประมาณ $25 ส่วนที่เหลืออาจขายไม่ได้เลย ของเหล่านี้ไม่มีค่าให้กับผมเลย! ของขวัญที่มีค่าที่สุดนั่นอยู่ในใจและในจิตวิญญาณของเรา

หลังจากที่คุณยายของผมเสียชีวิต พวกเขาบอกผมว่าจะทำความสะอาดบ้านของยายในวันรุ่งขึ้น ผมไม่อาจกลับไปที่นั่นได้ในวันรุ่งขึ้น ผมเลยวิ่งเข้าไปในบ้านและนำแค่สิ่งเดียวออกมา – นั่นคือหม้อเก่าๆที่มีเถาองุ่นเติบโตเต็มในนั้น นั่นคือสิ่งที่ท่านชอบและนั่นคือทั้งหมดที่ผมนำติดตัวไป ในขณะที่ผมเตรียมบทเทศนานี้ ได้มองไปที่เถาองุ่นซึ่งวางบนโต๊ะในที่ทำงานของผม ผมจะนำไปอยู่กับผม ถ้าผมไปอยู่ที่อื่นนานกว่าหกสิบปี มันมีค่าไม่ถึงสองดอลลาร์ แต่นั่นคือทั้งหมดที่เด็กอายุแค่สิบห้าปีนำออกมาจากบ้านของยาย มันมีค่าไม่ถึง $2 นั่นมันไม่มีค่าให้ผมเลย! ของขวัญที่มีค่าที่สุดนั่นอยู่ในใจและในจิตวิญญาณของเรา

ตอนที่หลานของผมที่ชื่อจอห์นนี่และภรรยาของเขาเสียชีวิต ผมขับรถไปที่บ้านของเขา บ้านหลังนี้ถูกขายแล้วและวันถัดไปทุกอย่างในบ้านจะต้องนำออกไปให้หมด ทุกอย่างถูกนำออกมากองอยู่บนพื้นหน้าห้อง มีบางคนถามผมว่า "คุณอยากได้อะไรหรือเปล่า?" ผมตอบว่า "อยาก” ผมอยากได้ชิ้นส่วนของไม้ที่เปื้อนฝุ่นอยู่" พวกเขามอบให้กับผมและนำกลับบ้านด้วยความโศกเศร้า ผมแขวนอยู่บนผนังหน้าห้องนอนของลูกชายของผมจนถึงทุกวันนี้ นำมาจากบ้านที่ผมเคยอาศัยอยู่ในสมัยเด็กอายุสิบสามปี มันมีค่าไม่ถึง $25 มันไม่มีค่าอะไรให้กับผมเลย! ของขวัญที่มีค่าที่สุดนั่นอยู่ในใจและในจิตวิญญาณของเรา

ตอนที่เราขายบ้านของแม่ พวกเขาโทรศัพท์มาหาผม "ถ้าคุณอยากได้อะไร คุณต้องเอาไปในวันนี้ เพราะวันนี้เป็นวันสุดท้ายแล้ว" ตอนนั้นก็เลยเที่ยงไปแล้ว ผมไม่ทราบเหมือนกันว่าทำไมพวกเขาไม่โทรมาหาผมสักหนึ่งหรือสองวันก่อนหน้านั้น! ผมจึงรีบวิ่งไปเช่ารถ เมื่อไปถึงผมเอาเปียโนเก่าๆของแม่ และรูปประติมากรรมปลาสเตอร์เก่าๆที่ปั้นเป็น – ชาวอเมริกันอินเดียและคนสเปนใส่หมวกคาวบอย ของเหล่านี้มีค่าน้อยกว่า $200 แต่คุณไม่อาจซื้อจากผมในราคา 10,000 ดอลลาร์ ของเหล่านี้ไม่มีค่าให้กับผมเลย! ของขวัญที่มีค่าที่สุดนั่นอยู่ในใจและในจิตวิญญาณของเรา

ชุดแต่งงานเก่าๆ กับเครื่องตักผมสองอัน เถาองุ่นปลูกอยู่ในหม้อ ชิ้นส่วนของถ้วยชามเก่า เปียโนเก่าๆ ประติมากรรมสองชิ้นเก่าๆ – เป็นแค่เศษขยะของโลกนี้ - แต่สำหรับผมแล้วนั้นมีค่ามากกว่าสิ่งอื่นใด! ผมไม่สามารถอธิบายให้คุณถึงค่าของสิ่งเหล่านี้ แต่ของขวัญที่มีค่าที่สุดนั่นอยู่ในใจและในจิตวิญญาณของเรา

ผมมีเพื่อนสมัยมัธยมชื่อไมค์ หลังจากที่ผมออกจากโรงเรียนนั้นเขาก็ฆ่าตัวตาย ผมไปหาแม่ของเขา ผมบอกท่านว่าเขาเป็นเพื่อนของผม ท่านพยายามที่จะให้เครื่องพิมพ์ดีดที่มีราคาแพงให้ผม ท่านพยายามที่จะเอาเสื้อผ้าของเขาให้ผม ท่านเสียใจมากจากการสูญเสียลูกคนเดียวของท่าน หากว่าท่านรวย ผมมั่นใจว่าเธอต้องพูดว่า "ฉันเป็นเจ้าของคฤหาสน์ในบีเวอรรี่ ฮิวส์ ดิฉันมี 10 ล้านดอลลาร์อยู่ในธนาคาร ฉันเองก็มีสร้อยเพชรที่ล้ำค่า ดิฉันยอมสูญเสียของทั้งหมดนี้ ถ้าสามารถทำให้ลูกชายของดิฉันมีชีวิติกลับคืนมาได้" แต่ของขวัญที่มีค่าที่สุดนั่นอยู่ในใจและในจิตวิญญาณของเรา

ตอนที่ผมอ่านพระธรรมข้อนี้ ซึ่งเขียนโดยอัครสาวกเปาโล ผมคิดว่าผมรู้ความหมายตามที่ท่านกล่าวเอาไว้

“จงขอบพระคุณพระเจ้าเพราะของประทานซึ่งพระองค์ทรงประทานนั้นที่เหลือจะพรรณนาได้” (2 โครินธ์ 9:15)

ภาษากรีกแปลคำว่า “เหลือจะพรรณนา” คือ anĕkdiēgētōs ซึ่งหมายถึง “ไม่สามารถที่จะอธิบายได้อย่างสมบูรณ์แบบ ไม่สามารถที่จะเล่าความละเอียดได้” (James Strong) นั่นหมายความว่า “ไม่สามารถจะพรรณนาได้” (George Ricker Berry) ดังนั้นคำพูดนี้จึงอ้างถึงของประธานที่ไม่สามารถที่จะอธิบายคำนั้นได้อย่างชัดเจน นั่นกล่าวถึงพระเยซูคริสต์ – ทรงเป็นพระบุตรของพระเจ้าที่เป็นของประทานแห่งความรักที่พระเจ้าทรงมอบให้กับคนบาป หรือโลกที่หลงหายไป! ลองมานึกคำนี้ตามประการเหล่านี้

I. ประการแรก ของประทานของพระเจ้าที่เป็นพระเยซูนั้นได้ ทำให้โลกนี้พิเศษ

ตอนที่พระเจ้าทรงส่งพระเยซูมาให้กับเรา ทำให้โลกเล็ก ๆ ของเรานี้เป็นพิเศษ ไม่มีสถานที่ไหนในจักรวาลอันกว้างใหญ่นี้ที่เป็นเหมือนโลกนี้ ด้วยเหตุนี้โลกนี้จึงมีเอกลักษณ์ภายใต้บรรดาหมู่ดาวต่างๆ ไม่มีที่ไหนเหมือนโลกของเรา แต่ทำไมโลกถึงแตกต่างจากดาวเคราะห์ดวงอื่น ๆ ในระบบสุริยะ?

ถ้าคุณบอกว่า "โลกแตกต่างเพราะมีสิ่งมีชีวิตอยู่ที่นี่" คนที่ไม่เชื่อจะพูดว่า "ไม่ใช่อย่างนั้น" คนเหล่านี้จะบอกว่ายังมีโลกอื่น ๆ และดาวเคราะห์ดวงอื่น ๆ ที่มีสิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่ด้วย คุณไม่สามารถโต้เถียงคนเหล่านี้ได้ คุณสามารถพูดได้ว่ามันไม่เป็นความจริง แต่คุณก็ไม่สามารถพิสูจน์ได้ บางทีอาจจะมีสิ่งมีชีวิตอยู่บนดาวเคราะห์ดวงอื่น ๆก็ได้ ที่ไม่ต่างอะไรไปกับโลกของเรานี้ ในการวิเคราะห์ครั้งสุดท้าย อะไรที่ทำให้โลกในจักรวาลนี้โดดเด่นพิเศษและไม่เหมือนที่อื่น ความจริงคือว่าพระเยซูเสด็จมาที่นี่ มาจากโลกที่มองไม่เห็นที่พระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงพระชนม์อยู่ จากโลกอีกมิติหนึ่ง จากสวรรค์ชั้นที่สาม พระเยซูเสด็จเสด็จลงมาและอาศัยอยู่ท่ามกลางพวกเรา พระคัมภีร์กล่าวว่า

“แต่เมื่อครบกำหนดแล้ว พระเจ้าก็ทรงใช้พระบุตรของพระองค์มาประสูติจากสตรีเพศ และทรงถือกำเนิดใต้พระราชบัญญัติ” (กาลาเทีย 4:4).

เมื่อเวลานั้นมาถึง "พระเจ้าทรงส่งพระบุตรของพระองค์ลงมา" พระองค์ทรงส่งพระเยซูมา คำในภาษากรีกคือ ĕxapŏstellō (เพื่อส่งออกไป ส่งไปข้างหน้า ส่งออก) พระเยซูทรงถูกส่งไปที่ไหน? ข้างหน้าที่พระเยซูทรงถูกส่งไปนั้นอยู่ที่ไหน? พระองค์ทรงถูกส่งออกไปที้ไหน? พระเยซูทรงถูกส่งไป ข้างหน้าที่พระเยซูทรงถูกส่งออกจากสวรรค์! พระองค์ทรงถูกส่งเข้าไปในครรภ์ของผู้หญิงคนหนึ่ง หญิงพรมจารีที่ชื่อมารีย์ พระองค์ทรงถูกส่งออกมาจากสวรรค์ชั้นที่สามเข้าสู่โลกของเรานี้ นั่นคือสิ่งที่ทำให้โลกของเราแตกต่างออกไป! นั่นคือสิ่งที่ทำให้โลกของเรานี้มีเอกลักษณ์! พระเยซูเสด็จมาที่นี่ดาวดวงนี้และยังเป็นดาวเล็ก ๆ คือโลกนี้ พระบุตรของผู้ปกครองที่ยิ่งใหญ่แห่งจักรวาลทั้งดวงดาวและจักรวาล พระบุตรองค์นี้ถูกส่งมายังโลกนี้ไม่ใช่ดาวเคราะห์ในที่อื่นๆ! "พระเจ้าทรงส่งพระบุตรของพระองค์มา" ยังเกาะเล็ก ๆ นี้ แผ่นดินโลกใบนี้ – และไม่ไปในที่อื่น ๆ! พระเจ้าทรงใช้พระบุตรของพระองค์มาในโลกนี้ และนั่นคือสิ่งที่ทำให้โลกของเรานี้แตกต่างจากดาวดวงอื่น ๆ! พระคริสต์เสด็จมาที่นี่! และนั่นคือสิ่งที่ทำให้เราแตกต่างกัน! "พระเจ้าทรงส่งพระบุตรของพระองค์มา และพระองค์ และพระวาทะได้รับสภาพของเนื้อหนัง และทรงอยู่ท่ามกลางเรา (และเราทั้งหลายได้เห็นสง่าราศีของพระองค์ คือสง่าราศีอันสมกับพระบุตรองค์เดียวที่บังเกิดจากพระบิดา) บริบูรณ์ด้วยพระคุณและความจริง" (ยอห์น 1:14 ) วิลเลียม บูธ เป็นผู้ก่อตั้ง ซอเวขั่นอาร์มี่ ครั้งหนึ่งหลานชายของท่านได้เขียนเพลงนมัสการไพเราะบทนี้

ลงมาจากสง่าราศีของพระองค์
   เป็นเรื่องราวที่มีชีวิต
พระเจ้าและพระผู้ช่วยให้รอดเสด็จมา
   และพระเยซูคือพระนามของพระองค์
บังเกิดอยู่ในรางหญ้า
   อยู่ท่ามกลางคนที่แปลกหน้า
คนแห่งความทุกข์น้ำตาและความทรมาน
   (“Down From His Glory” by William E. Booth-Clibborn, 1893-1969;
      grandson of William Booth, founder of the Salvation Army)

ที่ออเรนจ์เคาน์ตี้ รัฐแคลิฟอร์เนียเมือง โยบา ลินดา มีบ้านหลังเล็ก ๆ สีขาวอยู่หลังหนึ่ง มีเพียงแค่สองห้องเล็กๆและห้องครัวแคบๆอยู่บนชั้นที่หนึ่ง และยังมีห้องขนาดเล็กมากติดอยู่ใต้หลังคา หลายปีที่ผ่านมามีหลายพันคนได้เดินผ่านบ้านหลังเล็ก ๆ แห่งนี้ ตัวผมเองก็เคยเดินผ่านบ้านเล็ก ๆ นี้อย่างน้อย 40 ครั้งแล้ว เพื่อนำนักท่องเที่ยวเข้าไปเยี่ยมชม ทำไมผู้คนจำนวนมากถึงมาที่นั่น? อะไรที่ทำให้ที่บ้านเล็ก ๆ นี้เป็นที่น่าสนใจ? นั่นเป็นเพราะว่ามีคนๆหนึ่งเกิดที่นั่น นั่นคือท่านประธานคนที่ 37 ของสหรัฐอเมริกา ท่านเกิดในห้องนอนเล็ก ๆที่ชั้นหนึ่งนั้น นั่นคือสิ่งที่ทำให้บ้านหลังนี้มีความเป็นพิเศษ! เพราะมีคนๆหนึ่งเกิดที่นั่น ตอนที่ท่านเสียชีวิตนั้น มีประธานาธิบดีห้าคนที่ยังมีชีวิตอาศัยอยู่ เข้าร่วมกับคนอีกกว่าสี่พันคนนั่งฟัง บิลลี่ เกรแฮม เทศนาในงานศพของท่าน เพราะมีใครบางคนเกิดที่นั่น คือท่านประธานาธิบดีเกิดที่นั่น และโลกนี้ก็เช่นกันถูกกำหนดให้โดดเด่น เป็นสถานที่ในจักรวาลที่มีความพิเศษ เป็นเพราะว่าพระเยซูคริสต์เสด็จลงมาและบังเกิดที่นี่! ในสถานที่แห่งนี้! บนโลกใบนี้!

“ของประทานซึ่งพระองค์ทรงประทานนั้นที่เหลือจะพรรณนาได้” (2 โครินธ์ 9:15)

II. ประการที่สอง ของประทานของพระเจ้าที่เป็นพระคริสต์นั้นทำให้มนุษย์มีชีวิต

หลังจากน้ำท่วมโลกแล้ว พระเจ้าทรงตรัสให้กับ โนอาห์ ว่า

“ผู้ใดทำให้โลหิตของมนุษย์ไหล ผู้อื่นจะทำให้ผู้นั้นโลหิตไหล เพราะว่าพระองค์ทรงสร้างมนุษย์ในแบบพระฉายของพระเจ้า” (ปฐมกาล 9:6)

มนุษย์ถูกสร้างตามพระฉายาของพระเจ้า มนุษย์เป็นตราประทับของพระเจ้า ดังนั้นพระเจ้าจึงทรงตั้งโทษประหารสำหรับผู้ที่ฆาตกรรมชีวิตของมนุษย์ ชีวิตมนุษย์ได้รับการชำระให้บริสุทธิ์ตลอดไปโดยพระคริสต์พระบุตรของพระเจ้า และนั่นคือเหตุผลที่เราตั้งวันอาทิตย์ที่หนึ่งของเดือนมกราคมของทุกปีไว้เป็น “ความถูกต้องให้กับชีวิตในวันอาทิตย์" เรามีวันที่เป็นวันอาทิตย์สุดท้าย นั่นคือเป็นการระลึกถึงสี่สิบปีของ โรล วี เวด เพราะในขณะนั้นมีคนแก่หลายคนใส่ชุดดำบอกว่า ผู้หญิงทำแท้งเป็นเรื่องที่ถูกกฎหมาย นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมามีทารกประมาณ 75 ล้านคนที่ถูกฆ่าโดยการทำแท้ง พระเจ้าโปรดช่วยเราด้วย!

ผมบอกเรื่องทั้งหมดตอนเทศนาในอาทิตย์ที่ผ่านมา ในขณะที่ผมกำลังเทศนาอยู่นั้นมีผู้หญิงคนหนึ่งพร้อมกับลูกสาวของเธอลุกเดินออกจากคริสตจักรไป ผมจึงเดาออกว่านี่คือเหตุผลที่นักเทศน์ส่วนใหญ่ไม่ยอมเทศนาถึงการทำแท้ง แต่นั่นเป็นเรื่องที่น่าเสียดายเพราะผู้หญิงที่ทำแท้งคนนี้ต้องได้รับการชำระโดยพระโลหิตของพระเยซู ผมคาดหวังว่าหญิงสาวคนนี้น่าจะอยู่ต่อเพื่อที่จะได้ยินเกี่ยวกับความรักของพระเยซูที่มีต่อเธอ! หากไม่ได้รับการชำระโดยพระโลหิตของพระเยซู จิตสำนึกของผู้หญิงคนนี้จะลงโทษเธอตลอดชีวิตของเธอ และเธอจะถูกลงโทษไปชั่วนิรันดร์และร้องว่า "ฉันฆ่าลูกของฉัน! ฉันฆ่าลูกของฉัน! โอ้พระเจ้า ฉันฆ่าลูกของฉัน! "นั่นคือสิ่งที่หลอกหลอนผู้หญิงคนนี้ไปชั่วนิรันดร์ ศาสตราจารย์ที่สอนตามวิทยาลัยต่างจะไม่บอกคุณถึงเรื่องอย่างนี้! จิตแพทย์ฆราวาสจะไม่บอกคุณถึงเรื่องนี้ แต่ใจของคุณเองและจิตใต้สำนึกของคุณจะบอกว่าคุณทำแท้งอย่างนี้ไปชั่วนิรันดร์! "โอ้พระเจ้า! ฉันฆ่าลูกของฉัน!" ผู้คนที่ไม่เชื่อพระเจ้าจะบอกว่าผู้หญิง "มีสิทธิที่จะเลือก" แต่พวกเขาไม่เคยบอกสาววัยรุ่นว่า ฝันร้ายของเธอจะไม่มีที่สิ้นสุดชตลอดชีวิตที่เหลือของเธอ! ทำไม? เพราะชีวิตของมนุษย์นั้นศักดิ์สิทธิ์ นี่คือทำไม! มนุษย์ถูกสร้างตามพระฉายาของพระเจ้า นั่นแหละที่บอกว่าทำไม!

วันที่แล้วผมเรียนรู้จากบทเพลงบทหนึ่งในท่อนที่สองดังนี้ว่า "ความรักของพระเจ้า" เขียนโดยคนสติไม่สมประกอบและยากจนอยู่ในโรงพยาบาลโรคจิต หลังจากที่เสียชีวิตแล้ว มีคนไปพบว่าคำพูดเหล่านี้เขียนไว้บนผนังห้องที่เขาเคยอยู่

ช่วงเวลาผมหงอกผ่านไปบัลลังก์ของโลกและราชอาณาจักรตกลงมา
   เมื่อคนที่นี่ปฏิเสธที่จะอธิษฐานอยู่บนโขดหินและเนินเขา
ความรักของพระเจ้านั้นแน่นอน อดทนนาน วัดไม่ได้และแข็งแกร่ง
   ได้ไถ่ถอนเชื้อสายของอาดาม – บทเพลงของทูตสวรรค์และผู้เชื่อ
โอ้ความรักของพระเจ้านั้นดีเลิศและบริสุทธิ์! วัดไม่ได้และแข็งแกร่ง
   อดทนนานตลอดไป บทเพลงของทูตสวรรค์และผู้เชื่อ
(“The Love of God” by Frederick M. Lehman, 1868-1953; second stanza anonymous)

ของขวัญของพระเจ้าในพระเยซูคริสต์นั้นดำรงตลอดไปและได้ชำระชีวิตของมนุษย์ แม้กระทั่งชีวิตที่น่าสงสารอย่างคนเคราะห์ร้ายที่เสียชีวิตอยู่ในโรงพยาบาลโรคจิต ในฐานะที่เป็นมนุษย์คนหนึ่ง ต่างมีค่าในสายพระเนตรของพระเจ้า พระเจ้าทรงรักเราก่อนและส่งทรงพระเยซูทรงสิ้นพระชนม์เพื่อเราและช่วยจิตวิญญาณของเขาให้รอด! "จงขอบพระคุณพระเจ้าเพราะของประทานซึ่งพระองค์ทรงประทานนั้นที่เหลือจะพรรณนาได้" (2 โครินธ์ 9:15)

III. ประการที่สาม ของประทานของพระเจ้าคือพระคริสตนั้นทรงอภัยบาปของเรา และเป็นความรอดให้จิตวิญญาณของเรา

ฟังพระคัมภีร์ตอนที่ท่าน โพรมมี อ่านไปแล้วก่อนหน้าอีกครั้งหนึ่ง

“ขณะเมื่อเรายังขาดกำลัง พระคริสต์ก็ได้ทรงสิ้นพระชนม์เพื่อช่วยคนอธรรมในเวลาที่เหมาะสม ไม่ใคร่จะมีใครตายเพื่อคนชอบธรรม แต่บางทีจะมีคนอาจตายเพื่อคนดีก็ได้ แต่พระเจ้าทรงสำแดงความรักของพระองค์แก่เราทั้งหลาย คือขณะที่เรายังเป็นคนบาปอยู่นั้น พระคริสต์ได้ทรงสิ้นพระชนม์เพื่อเรา บัดนี้เราจึงเป็นคนชอบธรรมแล้วโดยพระโลหิตของพระองค์ ยิ่งกว่านั้น เราจะพ้นจากพระพิโรธโดยพระองค์” (โรม 5:6-9)

ตอนพระเยซูทรงสิ้นพระชนม์บนไม้กางเขน พระองค์ได้ทรงชดใช้โทษบาปของเรา "ขณะเมื่อเรายังขาดกำลัง พระคริสต์ก็ได้ทรงสิ้นพระชนม์เพื่อช่วยคนอธรรมในเวลาที่เหมาะสม" (โรม 5: 6) เราทุกคนดีไม่พอที่จะเป็นที่โปรดปรานให้กับพระเจ้าและช่วยกู้ตัวเราเองได้ เราทั้งหลายต่างชั่วร้าย แต่ "พระคริสสิ้นพระชนม์เพื่อความชั่วของเรา" นั่นคือของขวัญของพระเจ้าที่ไม่สามารถพรรณนาได้!

เราทุกคนเป็นคนบาป แต่ “ขณะที่เรายังเป็นคนบาปอยู่นั้น พระคริสต์ได้ทรงสิ้นพระชนม์เพื่อเรา” (โรม 5:8) นั่นคือของขวัญของพระเจ้าที่ไม่สามารถพรรณนาได้!

“บัดนี้เราจึงเป็นคนชอบธรรมแล้วโดยพระโลหิตของพระองค์ ยิ่งกว่านั้น เราจะพ้นจากพระพิโรธโดยพระองค์” (โรม 5:9) พระองค์ทรงสิ้นพระชนม์ในที่ของเรา - นั่นคือของขวัญของพระเจ้าที่ไม่สามารถพรรณนาได้! และกทรงชำระล้างบาปของเราโดยพระโลหิตของพระองค์ - นั่นคือของขวัญของพระเจ้าที่ไม่สามารถพรรณนาได้!

และเหนือสิ่งอื่นใด พระเจ้าทรงขอร้องเรา คือให้หันจากบาปของเราและวางใจในพระบุตร พระเยซู ในขณะที่คุณวางใจพระเยซู คุณจะรอด! นั่นคือของขวัญที่ไม่สามารถบรรยายของพระเจ้าสำหรับผู้ที่วางใจใยพระเยซูแต่!

รอดแล้ว! รอดแล้ว! บาปทั้งหมดของฉันได้รับอภัยโทษ ความผิดของฉันหายไปหมดแล้ว!
รอดแล้ว! รอดแล้ว! ฉันรอดโดยพระโลหิตของพระเยซู!
   (“Saved by the Blood” by S. J. Henderson, 19th century)

พระเยซูทรงหลั่งโลหิตอันมีค่าเพื่อเราทั้งหลาย
จงก้าวลงไปในน้ำพุที่ชำระบาปของเราให้ขาวดั่งหิมะ
   (“Only Trust Him” by John H. Stockton, 1813-1877)

"การวางใจ" ในพระเยซูนั้นหมายถึงอะไร? หมายถึงการนำตัวคุณเองเข้าไปอยู่ในพระหัตถ์ของพระองค์ เช่นเดียวกับที่คุณวางใจนายแพทย์ที่ดี ตอนผมอายุเจ็ดขวบ ดร. แพรตต์บอกแม่ของผมว่า จะต้องเอาต่อมทอนซิลของผมผ่าออก ผมกลัวมากตอนที่แม่บอกว่าจะต้องทำให้ผม "หลับก่อน" ผมอายุแค่เจ็ดขวบ ตอนที่เราไปถึงที่โรงพยาบาล ใจของผมเต้นเร็วมากและผมเองก็สั่นด้วย ผมไม่รู้ว่าจะเกิดขึ้นกับผมหลังพวกเขา "ทำให้ผมหลับ" ผมกลัวมากตอนที่มองหน้าพยาบาลในชุดสีขาวเดินเข้ามาพร้อมที่จะจับตัวผม

ผมกลัวมากจนเกือบจะกระโดดวิ่งออกไป! แต่แล้ว ดร. แพรตต์ ก็เดินเข้ามาในห้อง ผมรู้จักท่านตลอดชีวิตในวัยหนุ่มของผม เพราะท่านเป็นคนที่ทำคลอดตอนผมเกิดและก็แพทย์ประจำของผมนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ท่านเป็นผู้ใหญ่ที่ดูร่าเริง ผมรักท่าน และไว้ใจท่านด้วย ท่านกล่าวว่า "ไม่ต้องกังวลโรเบิร์ต ทั้งหมดนี้ใช้เวลาเพียงไม่กี่นาที "ใจของผมเริ่มเต้นเป็นปกติเพราะว่าผมวางใจ ดร. แพรตต์ แม้ในขณะที่ผมถูกทำให้ "นอนหลับ" ในช่วงเวลาที่ผมตื่นขึ้นมาเห็นรอยยิ้มบนใบหน้าของ ดร. แพรตต์ พร้อมกับกล่าวว่า "เสร็จเรียบร้อยแล้วโรเบิร์ต เดี่ยวคุณก็สามารถกลับบ้านได้" ผมวางใจท่านเพราะเป็นหมอมานาน นั่นคือสิ่งที่ผมอยากให้คุณมีต่อพระเยซู

วางใจพระองค์เท่านั้นวางใจในพระองค์เท่านั้นวางใจพระองค์เดี่ยวนี้
พระองค์จะช่วยให้คุณให้รอดพระองค์จะช่วยให้คุณให้รอดในเดี่ยวนี้

ดร.ชาน กรฺณานำเราอฐิษฐาน อาเมน

(จบการเทศนา)
คุณสามารถอ่านบทเทศนาของ ดร. ฮิวเมอร์ ได้ในแต่ละอาทิตย์ทางอินเตอร์เนทได้ที่
www.realconversion.com. (กดที่นี่) “บทเทศนาในภาษาไทย”

คุณสามารถส่งอีเมล์ถึง ดร. ไฮเมอร์ส ที่ rlhymersjr@sbcglobal.net
– หรือเขียนจดหมายส่งไปให้เขาที่ P.O. Box 15308, Los Angeles, CA 90015.
หรือโทรศัพท์ถึงเขาที (818) 352-0452.

หมายเหตุ: ต้นฉบับของบทเทศนาเหล่านี้ไม่ได้สงวนลิขสิทธิ์
คุณสามารถนำไปใช้โดยที่ไม่ต้องขออนุญาตจาก ดร. ไฮเมอร์ส
แต่อย่างไรก็ตามข้อความทั้งหมดของ ดร. ไฮเมอร์ส
ที่อยู่ในรูปวิดีโอนั้นมีการสงวนลิขสิทธิ์และต้องได้รับการอนุญาตเท่านั้นถึงจะสามารถนำมาใช้ได้

อ่านพระคัมภีร์ก่อนเทศนาโดย นาย อาเบล พรูมโหมมี: โรม 5:6-9.
ร้องเพลงเดี่ยวพิเศษโดย มร. เบนจามิน คินเคด กริฟฟิท์:
“The Love of God” (Frederick M. Lehman, 1868-1953).


โครงร่างของ

ของประทานที่เหลือจะพรรณนา

THE UNSPEAKABLE GIFT

โดย ดร. อาร์ เอล์ ไฮเมอร์ส จูเนียร์
by Dr. R. L. Hymers, Jr.

“ของประทานซึ่งพระองค์ทรงประทานนั้นที่เหลือจะพรรณนาได้” (2 โครินธ์ 9:15).

I.    ประการแรก ของประทานของพระเจ้าที่เป็นพระเยซูนั้นได้ ทำให้โลกนี้พิเศษ กาลาเทีย 4:4; ยอห์น 1:14.

II.   ประการที่สอง ของประทานของพระเจ้าที่เป็นพระคริสต์นั้นทำให้มนุษย์มีชีวิต ปฐมกาล 9:6.

III.  ประการที่สาม ของประทานของพระเจ้าคือพระคริสตนั้นทรงอภัยบาปของเรา และเป็นความรอดให้จิตวิญญาณของเรา โรม 5:6-9.