Print Sermon

เป้าหมายของเว็ปไซต์นี้คือจัดเตรียมบทเทศนาที่เขียนจากต้นฉบับ และในรูปแบบวีดีโอให้กับผู้รับใช้ และมิชชั่นนารีที่ไปรับใช้ในต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศในโลกที่สามที่ขาดแคลนพระคริสตธรรมหรือโรงเรียนอบรมพระคัมภีร์

ต้นฉบับของบทเทศนาเหล่านี้ถูกอ่านในคอมพิวเตอร์ประมาณ 1,500,000 เครื่อง และมากกว่า 221 ประเทศในแต่ละปี โปรดไปอ่านได้ที www.sermonsfortheworld.com ในขณะเดียวกันมีหลายร้อยคนดูวิดีโอบน YouTube และหลังจากนั้นคนเหล่านั้นก็จะย้ายจากดู YouTube มาอ่านเว็บไซต์ของเรา YouTube นำคนมาที่เว็บไซต์ของเรา บทเทศนาต้นฉบับนี้ถูกแปลออกเป็น 46 ภาษา และมีคนอ่านในคอมพิวเตอร์มากถึง 120,000 ทุก ๆ เดือน บทเทศนาต้นฉบับนี้ไม่สงวนลิขสิทธิ์ อนุญาตให้นักเทศนาสามารถนำไปใช้เทศน์ได้ นอกจากนี้ยังมีในรูปแบบวีดีโอเป็นร้อย ๆ ซึ่งเทศน์โดย ดร. ไฮเมอร์ส และนักศึกษาของท่าน บทเทศนาต้นฉบับไม่สงวน แต่จะสงวนเฉพาะในรูปแบบวีดีโอ กรุณาคลิกที่นี่เพื่อเรียนรู้ว่าจะสนับสนุนการประกาศพระกิตติคุณไปทั่วโลกได้อย่างไร

ตอนที่คุณเขียนหนังสือไปให้ ดร. ไฮเมอร์ส บอกท่านเสมอว่าคุณเขียนมาจากประเทศอะไร หรือท่านไม่ได้ตอบคุณ อีเมล์ของ ดร. ไฮเมอร์ส คือ rlhymersjr@sbcglobal.net




โยเซฟและพี่น้องของท่าน

(บทเทศนาตอนที่ 74 ในพระธรรมปฐมกาล)
JOSEPH AND HIS BROTHERS
(SERMON #74 ON THE BOOK OF GENESIS)
(Thai)

โดย ดร. อาร์ เอล์ ไฮเมอร์ส จูเนียร์
by Dr. R. L. Hymers, Jr.

เทศนาในตอนเย็นของวันที่ 10 เดือน มีนาคม ค.ศ. 2013 ณ คริสตจักร
แบ๊บติสต์แห่งนครลอสแอนเจลิส
A sermon preached at the Baptist Tabernacle of Los Angeles
Lord’s Day Evening, March 10, 2013


ผมไม่รู้ว่าจะมีใครหรือเปล่าที่ใช้ปฐมกาลในสี่บทสุดท้ายมาเทศนาโดยที่ไม่กล่าวถึงเรื่องราวของโยเซฟควบคู่ไปกับพระเยซู การเปรียบเทียบในนั้นชัดเจามากๆ แต่ถ้าขาดการเปรียบเทียบเช่นนี้แล้วก็เท่ากับว่าได้ละทิ้งทรัพย์สมบัติอันล้ำค่าของพระคัมภีร์ไป

ในช่างเช้าวันอาทิตย์แรกของวันอิสเตอร์นั้น พระเยซูทรงเป็นขึ้นมาจากความตาย และในช่วงบ่ายของวันเดียวกัน พระองค์ทรงปรกฏให้กับสาวกสองคนที่กำลังเดินทางไปที่เอ็มมาอุส และในช่วงเย็นของวันนั้นพระองค์ได้มาปรากฏให้กับสาวกคนอื่นในห้องชั้นบน พระองค์ร่วมรับประทานอาหารกับพวกเขา หลังจากที่พวกเขาทานอาหารมื้อเย็นแล้ว พระองค์ก็อธิบานถึงเรื่องราวต่างๆที่อยู่ในพระคัมภีร์เดิมที่กล่าวถึงพระองค์ ตอนที่พระองค์กล่าวถึงพระธรรมปฐมกาลนั้น พระองค์ก็กล่าวถึงตัวของโยเซฟ พระองค์พยายามทำให้พวกเขาเห็นภาพระหว่างพระองค์กับบุตรของยาโคบที่ชื่อโยเซฟ นี่เป็นตอนที่กล่าวถึงและคล้ายคลึงกับพระองค์มากที่สุดตามที่มีในพระคัมภีร์! ในค่ำคืนนี้เราจะศึกษาเรื่องราวของโยเซฟกับพี่น้องของท่าน จากความสัมพันธ์อัน โยเซฟคือแบบของพระคริสต์ตรงที่พระองค์ทรงช่วยคนบาปทั้งทุกคนให้รอด

ตอนก่อนที่เราจะไปถึงที่นั่น ผมอยากจะวาดภาพของโยเซฟที่มีความคล้ายคลึงกับพระเยซูตรงที่ท่านเผชิญกับพวกพี่น้อง เช่นเดียวกันกับพระคริสต์ โยเซฟคือบุตรที่บิดารักมาก เช่นเดียวกันกับพระเยซู ท่านถูกเกลียดและอิจฉาโดยพวกพี่น้อง และท่านถูกพวกเขาสมคบร่วมคิดต่อต้าน สบประมาท และแม้แต่เสื้อผ้าก็ถูกขโมยไป และตัวถูกโยนที่ลงไปในบ่อ เช่นเดียวกันกับพระคริสต์ที่พระศพถูกนำไปเก็บไว้ในถ้ำ เสื้อผ้าของโยเซฟถูกทาด้วยเลือดและนำไปให้กับยาโคบ เช่นเดียวกับกับพระโลหิตของพระคริสต์ที่ถูกเสนอให้กับพระบิดาในสวรรค์

โยเซฟถูกขายอย่างทาสคนหนึ่งไปที่อียิปต์ เช่าเดียวกันกับพระคริสต์ที่ถูกถอดพระเกียรติ และส่งเข้ามาในโลกจากบังลังก์ที่พระองค์ต้องประทับกับพระบิดา พระเจ้าทรงอยู่กับพระคริสต์ตอนถูกส่งเข้ามาในโลกและทุกสิ่งที่พระองค์กระทำ พระเจ้าก็สถิตอยู่กับโยเซฟฉันนั้น เหมือนกับโยเซฟ ตรงที่พระเยซูทรงถูกทดลอง แต่ไม่ได้หลงเข้าไปในบาป เหมือนโยเซฟ ตรงที่พระองค์ถูกใสร้ายด้วยคำพูดเท็จ แต่ก็ไม่ปกป้องตัวเองแต่อย่างไร สองวันที่ต้องทนทุกข์ทรมาณ แล้วก็ถูกปล่อยออกมาจากคุกคืนถ้ำโดยพระหัตถ์ของพระเจ้า และถูกยกไว้ในตำแหน่งที่สุงที่สุดในโลกนี้ ในขณะที่พระองค์เริ่มทำพันธกิจนั้น พระองค์ทรงมีอายุสามสิบสามปี พระองค์กลายมาเป็นพระผู้ช่วยให้รอดของมวลมนุษย์ทุกคน และพระองค์ก็เป็นทุกอย่างที่เราต้องการ ดังนั้นภาพของโยเซฟจึงสะทอ้นให้เห็นถึงพระลักษณะของพระเยซูคริสต์! อย่างไรก็ตามตอนนี้เราจะมาศึกษาถึงความสัมพันธ์ระหว่างโยเซฟกับพี่น้องของท่าน – เหมือนกับภาพความสัมพันธ์ระหว่างพระเยซูกับคนบาปทั้งหลาย เพื่อบรรลุตามนั้นผมจะใช้หนังสือของ ดร. ไอ เอ็ม ฮอลด์เมน มาเป็นหลัก เพราะท่านเป็นศิษยาภิบาลในคริสตจักรที่หนึ่งแบ๊บติสต์ใต้ที่นครนิวยอร์กมาเป็นเวลายาวนาน และนี่คือส่วนหนึ่งที่แสดงถึงความคล้ายกันระหว่างความสัมพันธ์ของโยเซฟกับพวกพี่น้อง และความสัมพันธ์ระหว่างพระเยซูกับคนบาป

1. หนึ่ง พี่น้องของโยเซฟอาศัยอยู่ในประเทศที่ปลูกข้าวไม่ได้

ให้กลับมาที่ปฐมกาล 42:5

“บรรดาบุตรชายของอิสราเอลก็ไปซื้อข้าวพร้อมกับคนทั้งหลายที่ไป เพราะการกันดารอาหารก็เกิดในแผ่นดินคานาอัน” (ปฐมกาล 42:5).

ประเทศที่พวกเขาอาศัยอยู่กันดารอาหารเกินที่พวกเขาจะสามารถอยู่ได้ ถ้าต้องการอยู่ต่อที่นั่นทางเดียวคือตาย อิสราเอลบอกลูกชายของท่านว่าให้ลงไปซื้ออาหารที่อียิปต์ “เพื่อเราจะรอด และมาตาย” (ปฐมกาล 42:2) เช่นเดียวกัน คนบาปทุกคนที่อาศัยอยู่ในโลกแห่งทุระกันดารไม่มีอาหารในฝ่ายจิตวิญญาณ ผู้ที่หลงหายต่างก็แสวงหาความรอด เหมือนกับบุตรน้อยหลงหาย “เกิดกันดารอาหาร [ทั่ว] ทั้วแผ่นดิน”

– ไม่มีอะไรให้เขาที่จะกินที่นั่นนอกจากฝักถั่วหมูที่เขาต้อง…กิน (ลูกา 15:14, 16) ตราบใดที่คนบาปยังไม่คิดว่าในโลกนี้ไม่มีอะไรที่จะให้พวกเขาได้ในฝ่ายจิตวิญญาณ ไม่มีวันที่คนๆนั้นจะมาที่พระคริสต์ พระองค์ทรงตรัสว่า “เราเป็นอาหารแห่งชีวิต ผู้ที่มาหาเราจะไม่หิวอีก และผู้ที่เชื่อในเราจะไม่กระหายอีกเลย” (ยอห์น 6:35).

2. สอง พี่น้องของโยเซฟต้องการซื้อในสื่งที่พวกเขาต้องการ

ให้ดูที่ปฐมกาล 42:3,

“พี่ชายของโยเซฟสิบคนก็ลงไปซื้อข้าวที่อียิปต์” (ปฐมกาล 42:3).

คำว่า “ซื้อ” ปรากฏทั้งหมดสิบครั้งด้วยกันจากข้อที่หนึ่งถึงสิบ จึงแสดงให้เราเห็นว่าพวกพี่น้องของโยเซฟไม่รู้เลยจริงๆว่าจะหาอาหารฟรีได้จากที่ไหน ภาพนี้จึงแสดงถึงจิตใจของคนบาป พวกเขาคิดว่าไม่มีอะไรดีเลยที่จะสามารถทำให้พระเจ้าพอพระทัยและประทานความรอดให้ คนบาปทุกคนคิดว่าพวกเขาสามารถซื้อความรอดได้โดยการทำบางอย่างให้พระเจ้าพอพระทัย บุตรน้อยหลงหายคนนั้นพูดว่า “ข้าพเจ้าเป็นเหมือนลูกจ้างของท่านคนหนึ่งเถิด” (ลูกา 15:19) นั่นคือคนๆหนึ่งได้รับสิ่งที่เป็นผลของการกระทำ คนบาปทั้งหลายไม่เชื่อว่าพวกเขาสามารถรอดได้ “โอ เชิญทุกคนที่กระหายจงมาถึงน้ำ และผู้ที่ไม่มีเงินมาซื้อกินเถิด มาซื้อน้ำองุ่นและน้ำนมเถิด โดยไม่ต้องเสียเงินเสียค่า” (อิสยาห์ 55:1) ดูเหมือนว่าสำหรับพวกเขาแล้วไม่มีทางที่จะเป็นไปได้ที่พวกเขาจะรับเอาความรอดเพียงแค่มาเชื่อพระคริสต์ นั่นคือแบบเดียวกันกับพวกพี่น้องของโยเซฟ – และคนไม่เชื่อไม่ว่าจะชายหรือหญิง แต่พระคัมภีร์ตรัสว่า “พระองค์ได้ทรงช่วยเราให้รอด มิใช่ด้วยการกระทำที่ชอบธรรมของเราเอง แต่พระองค์ทรงพระกรุณาชำระให้เรามีใจบังเกิดใหม่ และทรงสร้างเราขึ้นมาใหม่โดยพระวิญญาณบริสุทธิ์” (ตีตัส 3:5)

3. สาม พวกพี่น้องของโยเซฟต้องรับบาดแผลก่อนที่จะเข้ารับการรักษา

ตอนที่พวกเขามาถึงที่โยเซฟพวกเขาจำไม่ได้ว่าท่านเป็นใคร เพราะพวกเขาขายท่านอย่างทาสคนหนึ่ง ตอนนี้ท่านตัดผม โกนหนวด และแต่งตัวเหมือนกับคนอียิปต์ ตราบใดที่พวกเขายังไม่รู้ว่าโยเซฟคือน้องชายของพวกเขา ดังนั้นพวกเขาก็ยังกลัวอยู่ ถึงแม้ว่าพวกเขามาหาท่านด้วยท่าทีที่ถ่อมและนบน้อมก็ตาม โยเซฟจึงพูด “จาดุดันใส่พวกเขา” (ปฐมกาล 42:7) ทำไม ท่านจึงพูดเช่นนั้นใส่พวกพวกพี่น้อง พวกเขาบอกว่า “พวกเราจริงใจ ผู้รับใช้ของท่านมิใช่คนสอดแนม” (ปฐมกาล 42:11) พระคัมภีร์ฉบับปัจจุบันแปลคำนี้ว่า “เป็นคนสัตย์จริง” ใช่ และเป็นคนที่จงรักภักดี จริงๆ! แต่โยเซฟรู้มากกว่านั้น! ท่านรู้ว่าพวกเขาเกือบจะฆ่าท่านแล้ว และพูดเท็จให้กับบิดาพวกเขาว่าโยเซฟตายแล้ว! ช่างเป็นคนภักดีจริงๆ!

และพระเยซูก็รู้ทุกอย่างเกียวกับตัว คุณ ด้วย! พระองค์ทรงรู้ทุกความบาปในใจและในชีวิตของคุณ คุณไม่อาจที่จะหลอกพระองค์ได้ เหมือนพวกพี่น้องที่ไม่อาจหลอกโยเซฟได้! “พวกเราเป็นคนสัตย์จริง” “พวกเราจงรักภักดี” พวกเขาควรจะต้องถูกโบย! นี่คือหนทางที่พระเจ้าใช้ให้กับคนบาปทั้งหลาย พระองค์ทำให้พวกเขามีบาดแผลก่อนแล้วค่อยทำการรักษา ท่านพูด “ดุดัน” ในทางกฏหมายแล้ว ท่านพูดให้กับจิตใต้สำนึกของพวกคุณ “พวกเจ้าผิด”! “พวกเจ้าคือคนบาป”! “พวกเจ้าไม่ได้ภักดี!”

แล้วคนบาปจะตอบสนองอย่างไรกับคำถามนั้น? ตอนแรกพวกเขาพยายามบอกถึงความบริสุทธิ์ของพวกเขาเอง แต่สุดท้ายแล้วพวกเขาก็ยอมรับบาปนั้น กรุณายืนขึ้นและอ่านข้อที่ยี่สิบเอ็ดอย่างดังๆ

“พวกพี่ชายจึงพูดกันว่า ที่จริงเรามีความผิด เรื่องน้องชายเรา เพราะเราได้เห็นความทุกข์ใจของน้องเมื่อเขาอ้อนวอนเราแต่แล้วมิได้ฟัง เพราะฉะนั้นความทุกข์ใจทั้งนี้จึงบังเกิดแก่เรา” (ปฐมกาล 42:21)

พวกท่านนั่งได้ คนบาปต้องถูกทำให้สำนึกในบาปนั้น พวกเขาต้องพูดว่า “ฉันผิดแล้ว” ต้องทำให้พวกเขาพูดว่า เรา ไม่สัตย์ซื่อจริงๆ ไม่ใช่คนที่จริงใจ – นั่นแหละคือคนบาป! นั่นคือหนทางที่พระวัญญาณทรงลงโทษเจ้าให้เห็นถึงบาปนั้น คุณต้องมีแผลก่อนแล้วค่อยทำการรักษา คุณต้องเห็นถึงบาปของสักอย่างหนึ่ง – หรือว่า พระเยซู ไม่ ใช่ คน ที่คุณ ต้องการ!

มีบางคนบอกผมตอนที่อยู่ในอีกห้องอฐิษฐานว่าความเชื่อเรื่องบาปของพวกเขายังดีไม่พอสามารถรับเอาความรอด นี่คือความคิดที่ผิด โยเซฟ ฮาร์ต ตอบเรื่องนี้ได้ดีมากๆ

ถ้าคุณรอวันที่คุณดีสมบูรณ์แบบ
ไม่มีวันหรอกที่คุณจะมาที่พระคริสต์
   (“Come, Ye Sinners” โดย Joseph Hart, 1712-1768).

ถ้าคุณรอวันที่คุณดีพร้อม หรือวันที่คุณมีความเชื่อดี – ไม่มีวันที่คุณจะเข้ามาหาพระเจ้าแน่นอน! ทุกความเชื่อที่คุณควรมีคือเชื่อว่าพระเยซูเท่านั้นสามารถช่วยคุณให้รอดได้ ถ้าคุณเชื่อพอที่จะยอมรับเอาพระคริสต์ คุณก็สามารถมาหาพระองค์ได้เดี่ยวนี้ ในค่ำคืนนี้! แต่ถ้าคุณคิดว่าทุกวันนี้คุณก็ดีพร้อมอยู่แล้ว คุณจะถูกพิพากษาอย่างไม่มีวันรอดตลอดไป!

4. สี่ พี่น้องของโยเซฟถูกนำไปขังอยู่ช่วงหนึ่ง

ผมไม่อาจเล่ารายละเอียดทุกอย่างได้ คุณควรจะรับเอาบทเทศนาที่ได้ถ่ายเป็นเอกสารเอาไว้เพื่อนำกลับบ้าน ผมสามารถบอกว่าโยเซฟยังพูดจาดุด่า จนกว่าพวกเขาจะสำนึกในความผิดที่ได้กระทำ โปรดจำไว้ว่าตอนนี้พวกเขายังไม่รู้ว่าโยเซฟเป็นใคร ให้ดูที่ข้อสิบเจ็ด

“แล้วโยเซฟก็ขังพวกพี่ชายไว้ด้วยกันในคุกสามวัน” (ปฐมกาล 42:17).

นี่คือสิ่งที่พวกเขาสมควรได้รับ บางครั้งพระเจ้าก็ใช้วิธีเดียวกันนี้ให้กับคนบาป นำพวกเขาไปขังไว้ในคุกจนกว่าพวกเขาจะสำนึกในสิ่งผิดที่พวกเขาได้ทำไว้ และถูกลงโทษ หลังจากนี้พวกเขาก็จะสามารถรับรู้ถึงสิ่งที่พระเยซูทรงให้อภัย เช่น พวกเขาต้องถ่อมตัวก่อนที่จะรับการยกย่อง จอห์น นิวตัน เคยกล่าวเอาไว้ว่า

พระคุณที่สอนให้จิตใจของฉันกลัว
quote_indentและพระคุณนั้นก็ปล่อยจิตใจของฉันออก
(“Amazing Grace” โดย John Newton, 1725-1807).

ท่านนิวตันคงเห็นด้วยกับการที่ถูกนำไปขังเอาไว้ในคุก กลัวก่อนที่จะแสวงหพบพระเยซู!

5. หก พี่น้องของโยเซฟทราบว่าการรับอิสระนั้นก็โดยพระคุณ

หลังจากที่พวกเขาถูกจองจำได้สามวัน โยเซฟก็ปล่อยพวกเขาออก ให้เราอ่านปฐมกาล 42:25 “แล้วโยเซฟบัญชาให้ใส่ข้าวในถุงของพี่ชายให้เต็มและใส่เงินของแต่ละคนไว้ในกระสอบของทุกคน และให้เสบียงไปกินกลางทาง ท่านก็ทำต่อเขาดังนี้” นี่ช่างเป็นภาพที่สวยงามที่กล่าวถึงความรอดที่ได้รับอย่างฟรีๆ! พระวัจนะตรัสว่า “ด้วยว่าซึ่งท่านทั้งหลายรอดนั้นก็รอดโดยพระคุณเพราะความเชื่อ และมิใช่โดยตัวท่านทั้งหลายเอง แต่พระเจ้าทรงประทานให้ ความรอดนั้นจะเนื่องด้วยการกระทำก็หามิได้เพื่อมิให้คนหนึ่งคนใดอวดได้” (เอเฟซัส 2: 8, 9)

ตอนที่ผมมาศึกษาเรื่องนี้จากหนังสือของ ดร. ฮอล์ดเมน ผมรู้ดีประสบการณ์เช่น นักเทศน์ในปจจุบันนี้ไม่อาจเข้าใจได้ เพราะพวกเขาจะเน้นแต่เรื่อง “การตัดสินในในส่วนบุคคล” พวกเขาเพียงแต่บอกว่า “ให้ทำตามบทอธิษฐานของคนบาป” และบอกคนเหล่านั้นว่ารอดแล้ว! ดร. ฮอล์ดเมน สอนนักเทศน์บางคนนั้นถึงเรื่องคนๆหนึ่งต้องกลับใจใหม่ และผมเชื่อคำสอนเดิมนี้แหละถูกต้องที่สุด! (ดู Iain H. Murray, The Old Evangelicalism, The Banner of Truth Trust, 2005).

คนที่รับรู้ถึงบาปและสำนึกเท่านั้นถึงมองเห็นว่า การรับเอาความรอดโดยฟรีๆจากพระคริสต์นั้นสำคัญ! เสียงเพลงที่ร้องว่า “พระคุณพระเจ้า! นั้นแสนชื่นใจ – ช่วยได้คนชั่วอย่างฉัน” หรือ “พระคุณ! ‘ฉันเป็นเสียงที่ไพเราะ!” หรือ

พระคุณ พระคุณ พระคุณของพระเจ้า
   โดยพระคุณทรงให้อภัยและชำระภายใน
พระคุณ พระคุณ พระคุณของพระเจ้า
   พระคุณนั้นยิ่งใหญ่กว่าบาปของเรา
(“Grace Greater Than Our Sin” โดย Julia H. Johnston, 1849-1919).

แต่ก็มีบางพวกในปัจจุบันนี้ อย่างที่ผมได้เรื่องราวของพวหเขา นี่คือสิ่งที่พวกเขาพูด “พระคุณของพระเจ้าคืออะไร?” น่าเศร้าใจ! การเชื่อว่ามีบาปและเข้ารับเอาความรอดในพระคริสต์โดยทางพระคุณของพระเจ้า เพราะคนบาปไม่สามารถทำการใดๆเพื่อช่วยตัวเองให้รอด แต่พระเยซูเท่านั้นที่ช่วยได้ สิ่งที่คนบาปต้องทำคือกลับใจใหม่และวางใจในพระคริสต์!

พี่น้องของโยเซฟไม่ต้องเสียค่าใดๆ ความรอดไม่อาจซื้อได้! เหมือนพระคริสต์ โยเซฟคืนเงินของพวกเขา และให้อภัยในทุกเรื่อง “ไม่ใช่เงิน และไม่ใช่ราคาใดๆ” อย่างทิ่อิสยาห์กล่าวไว้! (อิสยาห์ 55:1)

6. หก พี่น้องของโยเซฟรับรู้ว่าพวกเขาไม่อาจล้างมลทินของตัวเองได้!

เปิดไปที่ปฐมกาล 44:16 พวกเขาอยู่ต่อหน้าโยเซฟโดยยังไม่ทราบว่าท่านเป็นใคร ตอนนี้พวกเขาได้กลับบ้านพร้อมกับอาหารที่พวกเขาต้องการ แต่โยเซฟก็ส่งคนใช้ติดพวกเขาไปและนำกลับมาหาเขาอีกครั้งหนึ่ง คนใช้ของโยเซฟคือแบบของพระวิญญาณบริสุทธิ์ เพราะพระวิญญาณทรงนำคนบาปให้รับรู้บาปและนำกลับมาที่พระคริสต์ ตอนนี้ให้ดูที่บทที่ 44 ข้อที่ 16

“ยูดาห์ตอบว่า ข้าพเจ้าทั้งหลายจะตอบอย่างไรกับนายของข้าพเจ้า ข้าพเจ้าจะพูดอย่างไร หรือข้าพเจ้าจะแก้ตัวอย่างไรได้ พระเจ้าทรงทราบความชั่วช้าของพวกข้าพเจ้าผู้รับใช้ของท่านแล้ว ข้าแต่ท่าน ดูเถิด พวกข้าพเจ้าเป็นทาส…” (ปฐมกาล 44:16)

ก่อนหน้านั้นพวกเขาบอกว่าเป็น “คนที่สัตย์ซื่อ” ตอนนี้พวกเขาไม่รู้จะแก้ตัวอย่างไร! พระเจ้าทรงค้นบาปของเขา และพวกเขาก็มาสามารถทำให้พวกเขาบริสุทธิ์อย่าง “แท้จริง” ยกเว้นทางเดียวคืนเวลาที่คนบาปยอมรับในสิ่งที่มาสามารถทำได้ และสามารถช่วยตัวเองให้ “บริสุทธิ์” ต่อพระพักต์พระเจ้า ตอนนั้นพระคริสต์คือความหวังของเขา! นั่นจะนำเราเข้าไปสู้ข้างตอนที่เจ็ด

7. เจ็ด โยเซฟเปิดเผยฐานะของตัวเองให้พวกพี่น้องทราบ

กรุณายืนขึ้นและอ่านบทที่ 45 ข้อที่ 1

“โยเซฟอดกลั้นต่อหน้าบรรดาผู้ที่ยืนอยู่ต่อไปอีกมิได้ ท่านก็ร้องสั่งว่า “ให้ทุกคนออกไปเสียเถิด” จึงไม่มีผู้ใดยืนอยู่กับท่านด้วย ขณะที่โยเซฟแจ้งให้พี่น้องรู้จักตัวท่าน” (ปฐมกาล 45:1).

พวกท่านนั่งลงได้

เราทราบว่าคนที่ไม่ใช่พี่น้องของโยเซฟถูกบอกให้ออกจากห้อง นั่งหมายความว่าไม่มีใครสามารถไปกับคุณตอนที่คุณเข้ามาที่พระคริสต์ คุณต้องไปคนเดียวเท่านั้น ตอนที่พวกเขาอยู่เพียงลำพัง โยเซฟก็เปิดเผยฐานะตัวเองให้พวกเขารู้!

ตอนนี้ให้อ่านปฐมกาล 45:15 และ 16 ด้วยเสียงดังๆ

“ยิ่งกว่านั้นโยเซฟจึงจุบพี่ชายทั้งปวงและร้องไห้ หลังจากนั้นพี่น้องของท่านก็สนทนากับโยเซฟ ข่าวว่า “พี่น้องของโยเซฟมา” ไปถึงราชวังฟาโรห์ ฟาโรห์กับข้าราชการของพระองค์ก็พากันยินดี” (ปฐมกาล 45:15-16).

ทุกคนจงชื่นชมยืนดี โยเซฟจงชื่นชมยืนดี พี่น้องของท่านจงชื่นชมยืนดี ฟาโรห์จงชื่นชมยืนดี คนใช้ของท่านจงชื่นชมยืนดี นี่คือตอนเวลาที่พระคริสต์ทรงสำแดงพระองค์เองให้กับคนบาป! พระเยซูตรัสว่า

“แหละ เราบอกท่านทั้งหลายว่า จะมีความปรีดีในพวกทูตสวรรค์ของพระเจ้า เพราะคนบาปคนเดียวที่กลับใจใหม่” (ลูกา 15:10).

นี่คือคำอุปมาเรื่องบุตรน้อยหลงหาย ตามที่กล่าวไว้ในพระคัมภีร์เดิม! นี่คือเรื่องราวของบุตรน้อยหลงหายที่อยู่ในพระธรรมปฐมกาล! คนถูกนำกลับคืนมาโดยโยเซฟของเรา – คือพระเยซู! คนที่หลายหายก็พบแล้ว นี่คือชีวิตที่เป็นขึ้นมาจากความตาย!

คืนนี้เราอธิษฐานเผื่อบางคนในที่นี้ หรือบางคนที่เข้ามาดูในอินเตอร์เนท จงมาที่พระคริสต์และวางใจในพระองค์ จงวางใจในพระคริสต์เหมือนกับพวกพี่น้องของโยเซฟวางใจท่าน! พระเยซูทรงอภัยบาปของท่าน พระองค์จะชำระบาปของท่านโดยพระโลหิตของพระองค์ พระองค์จะช่วยคุณให้รอดพ้นจากความหายนะ เราจะอธิษฐานเพื่อคุณให้วางใจในพระองค์เลยในค่ำคืนนี้! เราจะอธิษฐานเผื่อให้คุณมารู้จักกับพระองค์เป็นการส่วนตัวในค่ำคืนนี้!

ถ้าคุณต้องการคุยกับเราถึงการวางใจในพระคริสต์ กรุณาลุกจากที่นั่งเดินออกไปข้างหลังในห้องนี้ ท่านกรีฟฟ์จะมาร้องเพลง “แล้วแต่พระองค์เจ้า แล้วแต่พระทัย” ดร. คาเกน จะนำพวกท่านไปยังอีกห้องหนึ่งเพื่อพูดคุยและอธิษฐานเผื่อ

แล้วแต่พระองค์เจ้า แล้วแต่พระทัย
   พระองค์เป็นช่างปั้น ข้าฯเป็นดินทราย
ทรงโปรดปั้นตัวข้าฯ ตามน้ำพระทัย
   ข้าฯยอมนิ่งคอยฟัง พระเจ้ายิ่งใหญ่

แล้วแต่พระองค์เจ้า แล้วแต่พระทัย
   ขอให้โปรดลองดู ทรงตรวจจิตใจ
ฟอกให้สะอาดจน ขาวกว่าสำลี
   ข้าฯขอยอมถ่อมใจ คอยอยู่เดี๋ยวนี้
(“โดย Adelaide A. Pollard, 1862-1934).

ดร. ชาน กรุณานำเราอธิษฐานเผื่อคนที่ตอบสนองนั้น

(จบการเทศนา)
คุณสามารถอ่านบทเทศนาของ ดร. ฮิวเมอร์ ได้ในแต่ละอาทิตย์ทางอินเตอร์เนทได้ที่
www.realconversion.com. (กดที่นี่) “บทเทศนาในภาษาไทย”

คุณสามารถส่งอีเมล์ถึง ดร. ไฮเมอร์ส ที่ rlhymersjr@sbcglobal.net
– หรือเขียนจดหมายส่งไปให้เขาที่ P.O. Box 15308, Los Angeles, CA 90015.
หรือโทรศัพท์ถึงเขาที (818) 352-0452.

อ่านพระคัมภีร์ก่อนเทศนาโดยท่าน อาเบล พลูโฮมมี: ปฐมกาล 45:1-9
ร้องเพลงเดี่ยวพิเศษโดย มร. เบนจามิน คินเคด กริฟฟิท์:
“Have Thine Own Way, Lord!” (โดย Adelaide A. Pollard, 1862-1934).


โครงร่างของ

โยเซฟและพี่น้องของท่าน

(บทเทศนาตอนที่ 74 ในพระธรรมปฐมกาล)

โดย ดร. อาร์ เอล์ ไฮเมอร์ส จูเนียร์

1.  หนึ่ง พี่น้องของโยเซฟอาศัยอยู่ในประเทศที่ปลูกข้าวไม่ได้
ปฐมกาล 42:5, 2; ลูกา 15:14, 16; ยอห์น 6:35.

2.  สอง พี่น้องของโยเซฟต้องการซื้อในสื่งที่พวกเขาต้องการ ปฐมกาล 42:3;
ลูกา 15:19; อิสยาห์ 55:1; ติตัส 3:5.

3.  สาม พวกพี่น้องของโยเซฟต้องรับบาดแผลก่อนที่จะเข้ารับการรักษา
ปฐมกาล 42:7, 11, 21.

4.  สี่ พี่น้องของโยเซฟถูกนำไปขังอยู่ช่วงหนึ่ง ปฐมกาล 42:17.

5.  หก พี่น้องของโยเซฟทราบว่าการรับอิสระนั้นก็โดยพระคุณ ปฐมกาล 42:25;
 เอเฟซัส 2:8, 9; อิสอัส 55:1.

6.  หก พี่น้องของโยเซฟรับรู้ว่าพวกเขาไม่อาจล้างมลทินของตัวเองได้!
ปฐมกาล 44:16.

7.  เจ็ด โยเซฟเปิดเผยฐานะของตัวเองให้พวกพี่น้องทราบ ปฐมกาล 45:1, 15-16;
 ลูกา 15:10.