Print Sermon

เป้าหมายของเว็ปไซต์นี้คือจัดเตรียมบทเทศนาที่เขียนจากต้นฉบับ และในรูปแบบวีดีโอให้กับผู้รับใช้ และมิชชั่นนารีที่ไปรับใช้ในต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศในโลกที่สามที่ขาดแคลนพระคริสตธรรมหรือโรงเรียนอบรมพระคัมภีร์

ต้นฉบับของบทเทศนาเหล่านี้ถูกอ่านในคอมพิวเตอร์ประมาณ 1,500,000 เครื่อง และมากกว่า 221 ประเทศในแต่ละปี โปรดไปอ่านได้ที www.sermonsfortheworld.com ในขณะเดียวกันมีหลายร้อยคนดูวิดีโอบน YouTube และหลังจากนั้นคนเหล่านั้นก็จะย้ายจากดู YouTube มาอ่านเว็บไซต์ของเรา YouTube นำคนมาที่เว็บไซต์ของเรา บทเทศนาต้นฉบับนี้ถูกแปลออกเป็น 46 ภาษา และมีคนอ่านในคอมพิวเตอร์มากถึง 120,000 ทุก ๆ เดือน บทเทศนาต้นฉบับนี้ไม่สงวนลิขสิทธิ์ อนุญาตให้นักเทศนาสามารถนำไปใช้เทศน์ได้ นอกจากนี้ยังมีในรูปแบบวีดีโอเป็นร้อย ๆ ซึ่งเทศน์โดย ดร. ไฮเมอร์ส และนักศึกษาของท่าน บทเทศนาต้นฉบับไม่สงวน แต่จะสงวนเฉพาะในรูปแบบวีดีโอ กรุณาคลิกที่นี่เพื่อเรียนรู้ว่าจะสนับสนุนการประกาศพระกิตติคุณไปทั่วโลกได้อย่างไร

ตอนที่คุณเขียนหนังสือไปให้ ดร. ไฮเมอร์ส บอกท่านเสมอว่าคุณเขียนมาจากประเทศอะไร หรือท่านไม่ได้ตอบคุณ อีเมล์ของ ดร. ไฮเมอร์ส คือ rlhymersjr@sbcglobal.net




ทูตสวรรค์ที่ทำบาป – คำตัดเตือนสำหรับคนที่ทำบาป

(บทเทศนา # 4 ใน 2 เปโตร)
FALLEN ANGELS – A WARNING TO FALLEN MEN
(SERMON #4 ON II PETER)
(Thai)

โดย ดร. อาร์ เอล์ ไฮเมอร์ส จูเนียร์
by Dr. R. L. Hymers, Jr.

เทศนาในตอนเช้าวันของพระเป็นเจ้าที่ 17 เดือนพฤษภาคม ค.ศ. 2015 ณ
คริสตจักรแบ๊บติสต์แห่งนครลอสแอนเจลิส
A sermon preached at the Baptist Tabernacle of Los Angeles
Lord’s Day Evening, May 17, 2015

“พระเจ้าไม่ได้ทรงยกเว้นพวกทูตสวรรค์ที่ได้ทำบาปนั้น แต่ได้ทรงผลักเขาลงไปสู่นรก และได้มัดเขาไว้ด้วยเครื่องจองจำแห่งความมืด คุมไว้จนกว่าจะถึงเวลาทรงพิพากษา” (2 เปโตร 2:4)


พระคัมภีร์บอกเราว่าซาตานเป็นทูตสวรรค์ที่กบฏต่อพระเจ้า และถูกขับออกจากสวรรค์ลงมาสู่โลก การล้มลงของซาตานปรากฏอยู่ในเอเสเคียล 28: 11-19 และอิสยาห์ 14: 13-14 มีทูตสวรรค์จำนวนมากเข้าร่วมกับซาตานในกบฏครั้งนั้น ทูตสววรคค์บางตนถูกปล่อยให้มีอิสระอย่างที่พระคัมภีร์เรียกพวกมันว่า “พวกวิญญาณชั่ว” แต่บางตนก็ถูกโยนลงไปในนรก วิญญาณเหล่านี้คือพวกที่ถูกกล่าวถึงในพระธรรมของเรา ดร. ชาร์ลส์ซี ไรรีย์ กล่าวว่า "พวกเขาเป็นทูตสวรรค์ที่หลงไปทำบาปโดยเกี่ยวข้องกับพวกผู้หญิงที่อธิบายเอาไว้ในปฐมกาล 6: 1-4" (The Ryrie Study Bible, Moody Press, 1978; note on II Peter 2:4)

เอเฟซัส 6:11-17 แสดงให้เราเห็นว่ายังคงมีวิญญาณชั่วหลายพันตนที่อยู่ภายใต้การควบคุมของซาตาน – และพวกมันก็กำลังทำงานอย่างหนักในโลกทุกวันนี้ ดร. มาร์ติน ลอยด์โจนส์ กล่าวว่า "วิญญาณชั่วร้ายมีหลายพันหรืออาจจะมีนับล้านตน" (Christian Unity, The Banner of Truth Trust, 1980, p. 58)

ในต้นปี 1970 ผมก่อตั้งคริสตจักรให้กับพวกคนฮิปปี้ ตอนนี้ยังคงมีอยู่ที่นั่นและกลายมาเป็นคริสตจักรแบ๊บติสใต้ในเวลานี้ ประสบการณ์ที่นั่นทำให้ผมตระหนักถึงอำนาจของมาร ผมเห็นและได้ยินสิ่งที่ไม่ได้มาจากธรรมชาติ

ในหนังสือคลาสสิกของเขาที่ชื่อว่า วิญญาณชั่วในโลกทุกวันนี้ หรือ Demons in the World Today ดร. เมอร์ เอฟ อังเกอร์ แห่งพระคริสตธรรมดัลลัสวิทยาลัยศาสนศาสตร์แสดงให้เห็นถึงกองทัพปีศาจที่ทำงานในทุกวันนี้นั้นว่าเป็นอย่างไร ชื่อบทต่างในหนังสือเล่มนี้อย่างเช่น "มารและวิญญาณชั่ว" "มารและมายากล" "มารและวิญญาณชั่วเข้าสิง" "มารและศาสนาเทียมเท็จ" และอื่น ๆ อีกมากมาย (Merrill F. Unger, Ph.D., Th.D., Demons in the World Today, Tyndale House Publishers, 1971)

แต่วิญญาณชั่วที่ถูกพูดถึงในข้อพระคำของเรานี้ทำงานหนักมากกว่าวิญญาณชั่วในโลกทุกวันนี้ ดร. จอห์น แมคอาเธอ กล่าวอย่างถูกต้องว่า "พวกมันเข้าสิงคนที่สำส่อนกับพวกผู้หญิง" (The MacArthur Study Bible, note on II Peter 2:4) ผลของการกระทำเช่นนี้ทำให้พระเจ้าส่งน้ำมาท่วมโลกทำลายพวกเขาทั้งหมด สำหรับวิญญาณชั่วเหล่านั้นถูกโยนลงไปในนรก (ทาร์ทารัส) – และถูกล่ามโซ่อยู่ในความมืด ดร. เคนเน็ธ วูเอส์ท กล่าวว่า "เปโตรพูดถึงสถานที่ๆมองไม่เห็น และที่นั่นวิญญาณชั่ว [เหล่านี้] จะถูกขังจนกว่าจะถึงวันแห่งการพิพากษา" และในวันนั้นพวกมันก็จะถูกโยนลงไปในบึงไฟนรก (Kenneth S. Wuest, Wuest’s Word Studies From the Greek New Testament; volume 2, Eerdmans Publishing Company, 1954, note on II Peter 2:4)

ดร. เฮนรี่ เอ็มมอร์ริส กล่าวว่า "พวกทูตสวรรค์ที่เป็นวิญญาณชั่วนี้ไม่ได้เพียงติดตามซาตาน ... เข้าร่วมต่อต้านพระเจ้าเท่านั้น ... แต่พวกมันยังพยายามที่จะทำลายมนุษยชาติโดยการเข้าครอบงำและเข้าสิงในร่างกายของมนุษย์ 'ลูกสาวของคนเหล่านั้น" (ปฐมกาล 6: 1 –4; 2 เปโตร 2: 4) พวกเขา ... ถูกคุมขังอยู่ในชั้นมืดต่ำสุดและอยู่รอการพิพากษาครั้งสุดท้าย " (Henry M. Morris, Ph.D., The Defender’s Study Bible, World Publishing, 1995; note on Jude 6)

“เพราะว่า ถ้าพระเจ้าไม่ได้ทรงยกเว้นพวกทูตสวรรค์ที่ได้ทำบาปนั้น แต่ได้ทรงผลักเขาลงไปสู่นรก และได้มัดเขาไว้ด้วยเครื่องจองจำแห่งความมืด คุมไว้จนกว่าจะถึงเวลาทรงพิพากษา” (2 เปโตร 2:4)

ตรรกะในที่นี้คือตั้งแต่ที่พระเจ้าทรงพิพากษาทูตสวรรค์ที่หลงทำบาปเหล่านี้ พระเจ้าก็จะพิพากษามนุษย์ทุกคนที่ไม่ได้รับการไถ่โดยพระเยซูด้วย

I. ประการแรก พระธรรมข้อนี้เป็นการตัดเตือน

“พระเจ้าไม่ได้ทรงยกเว้นพวกทูตสวรรค์ที่ได้ทำบาปนั้น แต่ได้ทรงผลักเขาลงไปสู่นรก”

เห็นว่านั่นเป็นการพิพากษาความบาป นี่เป็นการแก้แค้นในอนาคตสำหรับพวกที่ถูกเก็บไว้สำหรับการพิพากษา! ขอให้สังเกตว่าทูตสวรรค์ที่หลงทำบาปเหล่านี้ครั้งหนึ่งเคยอยู่ในสวรรค์! พระเจ้าสร้างพวกมันให้อยู่ในสวรรค์ พวกมันไม่เคยเกี่ยวข้องอะไรกับความชั่วร้ายเลย เพื่อนของพวกเขาต่างเป็นวิญญาณที่สมบูรณ์แบบ แต่พวกเขาก็มีอิสระที่จะเลือกทำบาปและแล้วก็เลือกเดินทางนั้น ความชั่วร้ายเข้ามาสิงทูตสวรรค์เหล่านั้น ความอิจฉา ความหยิ่งผยองและการกบฏเข้าไปอยู่ในพวกเขา และพวกเขาก็ถูกทิ้งลงไปในนรก ที่ๆไม่มีอิสระเสรีภาพอีกต่อไป

คุณอาจจะเป็นลูกๆของพ่อแม่ที่เคร่งในศาสนา คุณอาจจะเติบโตในคริสตจักร ถึงกระนั้นก็ตามคุณยังคงเป็นคนบาปที่หลงหาย"... ถูกล่ามโซ่อยู่ในโลกแห่งความมืดเพื่อรอการพิพากษา"

ฮิตเลอร์ได้รับการยืนยันเป็นสมาชิกในคริสตจักรและรับบัพติศมาแล้วด้วย จากนั้นฮิตเลอร์เข้าศึกษาที่โรงเรียนสอนดนตรี และเรียนรู้การร้องเพลงอยู่ในคณะนักร้องประสานเสียง เหมาเจ๋อตุงเข้าศึกษาในโรงเรียนพระคริสตธรรม สตาลินเข้าศึกษาระดับปริญญาโทในสถาบันพระคริสตธรรม คาร์วินก็ได้ศึกษาพระคัมภีร์และมีปริญญาตรีด้านศาสนศาสตร์ นั่นคือปริญญาเดียวที่เขามี! แต่ปัจจุบันนี้คนฉลาดจำนวนนับพันต่างเชื่อว่าทฤษฎีป่าเถื่อนของคาร์วินที่ว่ามนุษย์เกิดมาจากลิง! ลองนึกถึงความอันตรายเช่นนี้ว่าทำลายมนุษยชาติไปเท่าไหร่!

วินเซนต์ แวน โก๊ะ เป็นบุตรชายของศิษยาภิบาลท่านหนึ่ง ตัวของ แวน โก๊ะ เองยังตีพิมพ์บทเทศนาของสเปอร์เจียนและใช้เทศนาหลายครั้งในคริสตจักรต่างๆในกรุงลอนดอน แต่ต่อมา แวนโก๊ะกลายเป็นคนติดยาเสพติดและฆ่าตัวตายในที่สุด! นักกวีที่มีนามว่า เอมิลี่ ดิกคินสันเข้าศึกษาในโรงเรียนและมีประสบการณ์เกี่ยวกับการฟื้นฟู เพื่อน ๆ ของเธอทั้งหมดได้กลับใจใหม่ แต่เอมิลี่ ดิกคินสันกลับปฏิเสธพระคริสต์ จุดจบชีวิตของเธออยู่เหมือนฤๅษีที่ไม่เคยออกจากห้องของเธอ และต่อมากลาบเป็นคนบ้าและหมดหวัง คุณอาจจะพูดว่า "ไม่มีทางที่ชีวิตของฉันจะพบกับเรื่องอย่างนั้นหรอก " คุณแน่ใจแล้วหรือ? พระคัมภีร์กล่าวว่า

“เหตุฉะนั้นคนที่คิดว่าตัวเองมั่นคงดีแล้ว ก็จงระวังให้ดี กลัวว่าจะล้มลง” (1 โครินธ์ 10:12).

ไม่ว่าคุณจะเข้มแข็งมากน้อยเพียงใดก็ตาม ไม่ว่าคุณจะเก่งมากเพียงใดก็ตาม! แม้แต่ทูตสวรรค์ยังล้มได้ แล้วคุณคือใครล่ะ! มันเป็นทูตที่มีนามว่าลูซิเฟอร์บุตรขแห่งตอนเช้า สุดท้ายกลายมาเป็นซาตาน! ทูตสวรรค์ล้มลงอยู่ในความบาปและทูตสวรรค์เหล่านั้นล้มลงเพราะการล่วงประเวณี "บุตรแห่งความหายนะ" ผู้ที่ทรยศพระคริสต์พระบุตรของพระเจ้า!

”คนที่คิดว่าตัวเองมั่นคงดีแล้ว ก็จงระวังให้ดี กลัวว่าจะล้มลง”

เรื่องที่ผมจะเล่าต่อไปนี้นำจากบทเทศนาของสเปอร์เจียน ท่านใช้พระธรรมตอนเดี่ยวที่เราใช้ในตอนเช้านี้ เรื่องนี้มีอยู่ว่ามีเจ้าหน้าที่ในอินเดียท่านหนึ่งเลี้ยงเสือดาวตัวหนึ่งได้เชื่องมาก มันอยู่กับคนเหมือนแมว และคนก็เล่นกับมันได้อย่างสบาย แต่อยู่มาวันหนึ่งในขณะที่เจ้าหน้าที่คนนั้นนั่งหลับอยู่ที่เก้าอี้ เสือดาวตัวนั้นก็เข้าไปเลียแขนของเขา ในเวลานั้นผิวของเขาเกิดถลอดและเสือดาวก็ลิ้มรสของเลือดจากแผลนั้น นับตั้งแต่เวลานั้นเสือตัวนี้ไม่ยอมอยู่ในบ้านอีกต่อไป มันวิ่งเข้าไปในป่าเพื่อฆ่าสัตว์กิน

เสือดาวตัวนี้ถูกฝึกให้เชื่อง แต่มันก็ยังคงเป็นเสือดาว เช่นเดียวกันหลายคนอาจจะดูเหมือนว่าเป็นคริสเตียน แต่ใจของเขาไม่ได้รับการเปลี่ยนแปลง คนนั้นก็ยังคงเป็นคนที่หลงหายอยู่ ในไม่ช้ารสชาติของความบาปก็จะเข้าไปยังคนนั้น ความดีต่างๆจะหมดหายไปเพาะการถูกทดลอง คุณอาจจะดูดี แต่หากยังไม่กลับใจคุณยังคงสามารถทำสิ่งที่ชั่วร้ายและเลวร้ายที่สุด ผมรู้จักคนหนึ่งเป็นนักเทศน์ที่เก่งมาก แต่ไม่กี่ปีหลังจากนั้นเขากลายมาเป็นคนติดสุราเรื้อรัง จนภรรยาของเขาต้องไล่เขาออกจากบ้านไปอยู่ตามท้องถนน อยู่มาคืนหนึ่งเขาก็ถูกฆ่าตายในสวนสาธารณะ ก่อนหน้านั้นผู้คนมักได้ยินเขาร้องตะโกนจากที่ไกลๆ! พระคัมภีร์กล่าวว่า

“พฤติกรรมได้เกิดกับเขาตามสุภาษิตซึ่งเป็นความจริงว่า สุนัขได้กลับกินสิ่งที่มันสำรอกออกมาแล้ว และสุกรที่ได้ชำระล้างตัวแล้วก็กลับลุยลงไปนอนในปลักอีก” (2 เปโตร 2:22)

“บั้นปลายของเขาก็กลับชั่วร้ายยิ่งกว่าตอนต้น” (2 เปโตร 2:20)

"พระเจ้าไม่ได้ยกเว้นทูตสวรรค์ที่ทำบาป" ดังนั้นพระองค์ก็จะไม่ยกเว้นคนบาปที่เกิดจากอดามเพื่อนำสู่การพิพากษาหรือเปล่า? จนกว่าคุณจะได้สัมผัสกับการกลับใจใหม่ในพระคริสต์อย่างแท้จริง และบาปของคุณต้องได้รับการชำระเท่านั้น หากไม่เช่นนั้นพระเจ้าจะเหวี่ยงคุณลงไปยังสถานที่ๆทรมานซึ่งเตรียมไว้สำหรับมารและสมุนของมัน พระเจ้าจะลงโทษผู้ที่อาศัยอยู่และตายอยู่ในบาป พระเจ้าไม่ได้ยกเว้นทูตสวรรค์ที่ทำบาป – และพระองค์ก็จะไม่ยกเว้นคุณด้วย ถ้าคุณยังคงอยู่ในสภาพที่ไม่ยอมกลับใจใหม่ นั่นคือคำเตือนที่ระบุเอาไว้ในพระธรรมของเราตอนนี้

II. ประการที่สอง ความหวังที่พบในพระธรรมข้อนี้

พระเจ้าทรงทอดทิ้งทูตสวรรค์ที่บาป แต่พระองค์กลับหาทางช่วยคนบาปที่หลงหายอย่างคุณ โดยพระคุณของพระเจ้า พระองค์จึงทรงไถ่ทั้งชายและหญิง! บรรดาทูตสวรรค์ที่ทำบาปเหล่านั้นไม่เคยมีพระผู้ช่วยให้รอดที่สิ้นพระชนม์ให้พวกเขา พวกเขาไม่เคยมีพระวิญญาณบริสุทธิ์ที่คอยบอกพวกเขาและนำมาที่พระเยซู พระโลหิตของพระองค์ก็ไม่เคยชำระบาปของพวกเขา พวกเขาไม่เคยได้ยินพระกิตติคุณของพระเยซู กับผมแล้วช่างแปลกมากที่พระเจ้าทรงให้อภัยและประทานความรอดให้กับมนุษย์ผู้ชั่วร้าย แต่กลับไม่มีให้กับบรรดาทูตสวรรค์ที่หลงทำบาป พวกเขาถูกทอดทิ้งทันทีทันใดหลังทำบาป และถูกล่ามโซ่อยู่ในความมืดจนกว่าจะถึงวันพิพากษาครั้งสุดท้ายและวันนั้นก็จะถูกโยงลงในบึงไฟนรก พระเจ้าไม่เคยให้โอกาสครั้งที่สองแก่ทูตสวรรค์เหล่านั้น พระองค์ไม่เคยรอหลายปีกว่าจะพิพากษาบาปของเขา ในขณะที่พวกเขาทำบาปพวกเขาก็ถูกขับออกจากสวรรค์ทันทีและไปชั่วนิรันดร์

คุณจะอยู่ในบาปนานไปอีกเท่าไหร่? บางท่านยังคงไม่ได้กลับใจใหม่ คุณได้ปฏิเสธพระคริสต์มาเป็นเวลานาน แม้ว่าคุณเคยได้ยินคำเทศนาเกี่ยวกับพระเยซูบนธรรมาสน์นี้ในทุกวันอาทิตย์ก็ตาม! ความอดทนของพระเจ้าที่มีต่อคุณนั้นช่างอัศจรรย์เหลือเกิน! พระองค์ไม่ยกพวกทูตสวรรค์ที่ทำบาป แต่พระองค์กลับไว้ชีวิตของคุณ! นี่เป็นเพราะเหตุใด

ทูตสวรรค์เหล่านั้นไม่เคยได้รับพระกิตติคุณ เมื่อพวกเขาล้มลงพวกเขาไม่มีโอกาสในอนาคตที่จะได้รับความรอดอีก พวกเขาล้มลงไม่มีโอกาสกลับมาอีกครั้ง พระบุตรของพระเจ้าไม่ได้สิ้นพระชนม์ให้ทูตสวรรค์เหล่านั้น ไม่มีโลหิตที่จะชำระบาปของพวกเขา พวกเขาไม่มีนักเทศน์คอยประกาศพระกิตติคุณให้ฟัง แต่ผมกลับเรียกพวกท่านว่าให้กลับใจและมาที่พระเยซูหลายต่อหลายครั้ง ผมขอให้พวกท่านวางใจในพระเยซูและรับชีวิตนิรันดร์

ไม่มีการให้อภัยและความหวังให้สำหรับพวกวิญญาณชั่ว แต่มีการให้อภัยและความหวังสำหรับคุณ พระคริสต์ตรัสให้กับคุณอีกครั้งว่า

“บรรดาผู้ทำงานเหน็ดเหนื่อยและแบกภาระหนัก จงมาหาเรา และเราจะให้ท่านทั้งหลายหายเหนื่อยเป็นสุข” (มัทธิ 11:28)

พระเยซูทรงตรัสให้กับคุณว่า "จงมาหาเรา" พระองค์ไม่เคยตรัสแบบเชื้อเชิญเช่นนี้ให้กับพวกทูตสวรรค์ที่หลงทำบาป แต่ทรงตรัสให้กับคุณ "จงมาหาเรา ... และเราจะให้ท่านหายเหนื่อย" จงมาหาเรา วางใจในเรา เราจะชำระคุณจากบาปโดยโลหิตของเรา!

พระองค์ไม่เคยตรัสอย่างนั้นให้กับพวกทูตสวรรค์ แต่พระองค์ตรัสให้กับคุณ! นั่นคือความรักที่มหัศจรรย์ที่อยู่ในบทเพลงที่ เวสลีย์ ร้อง

“ความรักมหัศจรรย์ นั้นแสนชื่นใจ
   พระเจ้าของฉันทรงสิ้นพระชนม์แทนฉัน?”
      (“And Can It Be?” by Charles Wesley, 1707-1788)

ตอนนี้พระเยซูพร้อมที่ช่วยคนที่วางใจในพระองค์ ไม่ว่าคุณจะทำบาปอะไรก็ตาม ในเวลาที่คุณวางใจในพระคริสต์ พระองค์จะทรงชำระคุณให้ปราศจากบาปทั้งหมด

การวางใจในพระองค์นั้นจะยากสักแค่ไหนเชียว? การวางใจในพระองค์นั้นง่ายมาก ในหลายอาทิตย์ที่ผ่านมาผมอ่านหนังสือของอาจารย์ วูร์เบรมด์ ที่ชื่อ ทรมารเพื่อพระคริสต์ หรือ Tortured for Christ ท่านกล่าวว่า

ครั้งหนึ่งผมเคยรู้จักกับบาทหลวงท่านหนึ่งในโรเมเนีย ท่านเป็นคอมมิวนิสต์ และต่อต้านลูกแกะของตนเอง ผมจับมือของท่านและบอกท่านถึงคำอุปมาเรื่องบุตรน้อยหลงหาย เย็นวันหนึ่งในสวนของท่าน ผมกล่าวว่า “เห็นหรือเปล่าพระเจ้าทรงรับคนบาปที่กลับใจ พระองค์ก็จะทรงรับบาทหลวงที่กลับใจใหม่ด้วย” ชายคนนี้จึงได้กลับใจใหม่ และผมเองจึงร้องเพลงนมัสการของคริสเตียน (Richard Wurmbrand, Tortured for Christ, Living Sacrifice Books, 1998, p. 90)

ไม่ว่าคุณจะทำบาปอะไรมาก็ตามหรือคิดที่จะทำก็ตาม พระเยซูทรงให้อภัยคุณ พระองค์จะยกโทษให้คุณ และคุณจะได้รับการชำระบาปโดยพระโลหิตของพระองค์ สิ่งที่พระเยซูได้ทรงทำให้กับบาทหลวงคนนั้น พระองค์ก็จะทำให้คุณด้วย เพียงแค่วางใจในพระองค์! พระองค์จะช่วยคุณให้รอด พระเยซูทรงตรัสว่า

“และผู้ที่มาหาเรา เราก็จะไม่ทิ้งเขาเลย” (ยอห์น 6:37)

พระเยซูทรงเชิญคุณให้มาหาพระองค์ ตอนที่ผมนึกถึงการที่พระเยซูทรงขอร้องคนบาปให้มาหาและวางใจในพระองค์ ผมถึงกับประหลาดใจมาก แทนที่คนบาปจะขอพระเยซูให้ช่วยพวกเขา! แต่พระเยซูและพระวิญญาณบริสุทธิ์กลับขอร้องให้คนบาปมาที่พระองค์! และคริสตจักรก็ขอร้องให้พวกเขามาที่พระองค์ คริสเตียนทั้งหลายก็อธิษฐานให้พวกเขามาที่พระองค์

“พระวิญญาณและเจ้าสาวตรัสว่า เชิญมาเถิด และให้ผู้ที่ได้ยินกล่าวว่า เชิญมาเถิด และให้ผู้ที่กระหายเข้ามา” (วิวรณ์ 22:17)

เราจะอธิษฐานเผื่ออะไร? เราอธิษฐานให้คุณมาที่พระเยซู! พระวิญญาณบริสุทธิ์ทรงทำอะไร? พระองค์ทรงเรียกคุณให้มาที่พระเยซู! พระเยซูทรงตรัสว่าอย่างไร? พระองค์ทรงตรัสว่า "จงมาหาเรา"! พระเยซูทรงบอกเราให้ทำอะไร? พระองค์ตรัสว่า "นำพวกเขาเข้ามาข้างใน" (ลูกา 14:23) พวกเราทุกคนอยากให้คุณมาที่พระเยซูและรับเอาความรอด เราไม่ได้พูดแบบนี้ให้กับพวกทูตสวรรค์ที่หลงทำบาป แต่เราบอกอย่างนั้นให้คุณ! มา! มา! มา! มาที่พระเยซูและรับเอาความรอด! จงนำความสงสัยทั้งหมดของคุณมาที่พระเยซู! มาที่พระองค์ด้วยความเกรงกลัว! มาที่พระองค์ด้วยบาปทั้งหมดของคุณ!

พระผู้ช่วยให้รอดทรงยืนอยู่เพื่อฉัน
   พระหัตถ์ของพระองค์ทรงมีบาดแผล
พระเจ้าเป็นความรัก! ฉันทราบและฉันรู้สึก
   พระเยซูทรงร้องไห้และยังคงรักฉัน
(“Depth of Mercy” by Charles Wesley, 1707-1788)

พระบิดา ข้าพระองค์อธิษฐานขอให้คนบาปมาที่พระเยซู พระบุตรของพระองค์และมารับการช่วยกู้! ในพระนามของพระองค์ อาเมน

หากบทเทศนานี้เป็นพระพรให้กับคุณ กรุณาเขียนอีเมล์ส่งไปให้ ดร. ไฮเมอร์ส และบอกท่าน – www.realconversion.com (คลิกที่นี่) คุณสามารถเขียนถึง ดร. ไฮเมอร์ส ในภาษาของคุณ แต่หากเป็นไปได้ก็ขอให้เขียนเป็นภาษาอังกฤษ

(จบการเทศนา)
คุณสามารถอ่านบทเทศนาของ ดร. ฮิวเมอร์ ได้ในแต่ละอาทิตย์ทางอินเตอร์เนทได้ที่
www.realconversion.com. (กดที่นี่) “บทเทศนาในภาษาไทย”

คุณสามารถส่งอีเมล์ถึง ดร. ไฮเมอร์ส ที่ rlhymersjr@sbcglobal.net
– หรือเขียนจดหมายส่งไปให้เขาที่ P.O. Box 15308, Los Angeles, CA 90015.
หรือโทรศัพท์ถึงเขาที (818) 352-0452.

หมายเหตุ: ต้นฉบับของบทเทศนาเหล่านี้ไม่ได้สงวนลิขสิทธิ์
คุณสามารถนำไปใช้โดยที่ไม่ต้องขออนุญาตจาก ดร. ไฮเมอร์ส
แต่อย่างไรก็ตามข้อความทั้งหมดของ ดร. ไฮเมอร์ส
ที่อยู่ในรูปวิดีโอนั้นมีการสงวนลิขสิทธิ์และต้องได้รับการอนุญาตเท่านั้นถึงจะสามารถนำมาใช้ได้

อ่านพระคัมภีร์ก่อนเทศนาโดย ท่าน อาเบล พรูดโฮมมี: 2 เปโตร 2:4-9.
ร้องเพลงเดี่ยวพิเศษโดย มร. เบนจามิน คินเคด กริฟฟิท์:
“Depth of Mercy” (by Charles Wesley, 1707-1788; sung to the tune of “Just As I Am”).


โครงร่างของ

ทูตสวรรค์ที่ทำบาป – คำตัดเตือนสำหรับคนที่ทำบาป

(บทเทศนา # 4 ใน 2 เปโตร)
FALLEN ANGELS – A WARNING TO FALLEN MEN
(SERMON #4 ON II PETER)

โดย ดร. อาร์ เอล์ ไฮเมอร์ส จูเนียร์
by Dr. R. L. Hymers, Jr.

“เพราะว่า ถ้าพระเจ้าไม่ได้ทรงยกเว้นพวกทูตสวรรค์ที่ได้ทำบาปนั้น แต่ได้ทรงผลักเขาลงไปสู่นรก และได้มัดเขาไว้ด้วยเครื่องจองจำแห่งความมืด คุมไว้จนกว่าจะถึงเวลาทรงพิพากษา” (2 เปโตร 2:4)

(เอเสเคียล 28:11-19; อิสยาห์ 14:13-14; ปฐมกาล 6:1-4; เอเฟซัส 6:11-17)

I. ประการแรก พระธรรมข้อนี้เป็นการตัดเตือน 2 เปโตร 2:4ก;
1 โครินธ์ 10:12; 2 เปโตร 2:22, 20

II. ประการที่สอง ความหวังที่พบในพระธรรมข้อนี้ มัทธิว 11:28;
ยอห์น 6:37; วิวรณ์ 22:17; ลูกา 14:23