Print Sermon

เป้าหมายของเว็ปไซต์นี้คือจัดเตรียมบทเทศนาที่เขียนจากต้นฉบับ และในรูปแบบวีดีโอให้กับผู้รับใช้ และมิชชั่นนารีที่ไปรับใช้ในต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศในโลกที่สามที่ขาดแคลนพระคริสตธรรมหรือโรงเรียนอบรมพระคัมภีร์

ต้นฉบับของบทเทศนาเหล่านี้ถูกอ่านในคอมพิวเตอร์ประมาณ 1,500,000 เครื่อง และมากกว่า 221 ประเทศในแต่ละปี โปรดไปอ่านได้ที www.sermonsfortheworld.com ในขณะเดียวกันมีหลายร้อยคนดูวิดีโอบน YouTube และหลังจากนั้นคนเหล่านั้นก็จะย้ายจากดู YouTube มาอ่านเว็บไซต์ของเรา YouTube นำคนมาที่เว็บไซต์ของเรา บทเทศนาต้นฉบับนี้ถูกแปลออกเป็น 46 ภาษา และมีคนอ่านในคอมพิวเตอร์มากถึง 120,000 ทุก ๆ เดือน บทเทศนาต้นฉบับนี้ไม่สงวนลิขสิทธิ์ อนุญาตให้นักเทศนาสามารถนำไปใช้เทศน์ได้ นอกจากนี้ยังมีในรูปแบบวีดีโอเป็นร้อย ๆ ซึ่งเทศน์โดย ดร. ไฮเมอร์ส และนักศึกษาของท่าน บทเทศนาต้นฉบับไม่สงวน แต่จะสงวนเฉพาะในรูปแบบวีดีโอ กรุณาคลิกที่นี่เพื่อเรียนรู้ว่าจะสนับสนุนการประกาศพระกิตติคุณไปทั่วโลกได้อย่างไร

ตอนที่คุณเขียนหนังสือไปให้ ดร. ไฮเมอร์ส บอกท่านเสมอว่าคุณเขียนมาจากประเทศอะไร หรือท่านไม่ได้ตอบคุณ อีเมล์ของ ดร. ไฮเมอร์ส คือ rlhymersjr@sbcglobal.net




วิญญาณชั่วในโลกแห่งยุคนี้

(บทเทศนา # 79 จากพระธรรมปฐมกาล)
DEMONS IN THE WORLD TODAY
(SERMON #79 ON THE BOOK OF GENESIS)
(Thai)

โดย ดร. อาร์ เอล์ ไฮเมอร์ส จูเนียร์
by Dr. R. L. Hymers, Jr.

เทศนาในตอนเช้าวันของพระเป็นเจ้าที่ 25 เดือนพฤษภาคม ค.ศ. 2014 ณ
คริสตจักรแบ๊บติสต์แห่งนครลอสแอนเจลิส
A sermon preached at the Baptist Tabernacle of Los Angeles
Lord’s Day Morning, May 25, 2014

“และต่อมาเมื่อมนุษย์เริ่มทวีมากขึ้นบนพื้นแผ่นดินโลก และพวกเขาให้กำเนิดบุตรสาวหลายคน บุตรชายทั้งหลายของพระเจ้าเห็นว่าบุตรสาวทั้งหลายของมนุษย์สวยงาม และพวกเขารับเธอทั้งหลายไว้เป็นภรรยาตามที่พวกเขาเลือกไว้” (ปฐมกาล 6:1-2).


เปิดพระคัมภีร์ของคุณตอนนี้เอาไว้ ก่อนที่ผมจะอธิบายสองข้อนี้ ผมจะให้กุญแจสำคัญดอกหนึ่งที่ทำให้คนเลิกเชื่อพระเจ้า ถ้าเราดูจากคำทำนายของพระเยซูที่ผมเทศน์เมื่อวันอาทิตย์ที่แล้ว ผมอยากให้เรามานึกถึงคำทำนายนี้อีกครั้งหนึ่ง

พวกสาวกถามพระเยซูว่า “สิ่งไรเป็นหมายสำคัญว่าพระองค์จะเสด็จมา และวาระสุดท้ายของโลกนี้” (มัทธิว 24:3) พระคริสต์ทรงบอกหมายสำคัญหลายอย่างให้กับพวกเขา แต่มีหมายสำคัญหนึ่งที่สำคัญที่พระเยซูทรงบอกพวกเขา พระคริสทรงตรัสว่า

“ด้วยสมัยของโนอาห์เป็นอย่างไร เมื่อบุตรมนุษย์เสด็จมาก็จะเป็นอย่างนั้นด้วย” (มัทธิว 24:37)

ถ้าเราต้องการที่จะรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นก่อนการเสด็จมาครั้งที่สองของพระคริสต์และยุคสุดท้าย สิ่งที่เราควรจะทำคือต้องอ่านเหมือนกับอยู่ในยุคของโนอาห์ ก่อนน้ำท่วมโลก และรายละเอียดของการอธิบายนี้จะอยู่ในสามบทของ - ปฐมการ 4, 5, และ 6

คืนวันอาทิตย์ที่แล้วผมบอกพวกคุณแล้วว่าปฐมกาลบทที่ 5 นั้นกล่าวว่าช่วงเวลานั้นคนไม่สนใจเชื่อพระเจ้า แต่พากันละทั้งพระเจ้า! ผู้นำศาสนาในยุคนั้นไม่ใส่ใจในฝ่ายวิญญาณ ทั้งหมดนี้พูดถึงการเป็นอยู่ การกำเนิดบุตรแล้วการเสียชีวิต! คนเหล่านั้นทั้งหมดมีเพียงแค่คนเดียวที่ทำอะไรบางอย่าง ชื่อของเขาคือเอโนค เขาเทศนาต่อต้านพวกที่ละทิ้งพระเจ้าในยุคนั้น โดยพูดว่า "พระองค์ได้ทรงทำลายคนเหล่านั้นที่ไม่เชื่อพระองค์เสีย” (ยูดาห์ 15) ท่านเทศนาถึงการพิพากษาเรื่องน้ำจะท่วมโลก และพระคัมภีร์กล่าวว่า "เอโนคดำเนินกับพระเจ้า" (ปฐมกาล 5:22) พระคัมภีร์ไม่ได้บอกว่ามีผู้ประกาศก่อนหน้าโนอาห์ "และโนอาห์ดำเนินกับพระเจ้า" (ปฐมกาล 6:9) ผู้ประกาศคนอื่นๆไม่ได้กล่าวเอาไว้ในพระธรรมฮีบรู 11 ยกเว้นชายสองคนนี้ - เอโนคและโนอาห์ ดังนั้นเราจะเห็นว่าช่วงระยะเวลาในปฐมกาลบทที่ 5 เป็นช่วงเวลาที่คนจำนวนมากพากันละทิ้งพระเจ้า

หนังสืออรรถธิบายพระคัมภีร์หลายเล่มได้กล่าวถึง "เชื้อสายของเสทที่ละทิ้งพระเจ้า" และเชื้อสายของคาอินที่ละทิ้งพระเจ้า” – แต่ไม่มีแม้คำเดียว – คำเดียวก็ไม่มี – แต่พระคัมภีร์สอนว่า! ใช่ มีอยู่สองเชื้อชาติ หนึ่งมาจากคาอิน และอีกหนึ่งเชื้อสายมาจากเสท แต่ทั้งสองเชื้อสายนี้ล้วนไม่เชื่อในพระเจ้า! คนทั้งหมดที่มาจากสองเชื้อสายนี้ต่างก็เสียชีวิตในช่วงน้ำท่วม! พวกธรรมจารย์ของพวกยิวในโบราณพูดถึงช่วงเวลาของผู้นำศาสนาละทิ้งพระเจ้า ซึ่งนำเราไปถึงจุดสำคัญที่เรียกว่าบาป ลองดูที่ปฐกาล 6:1-2

I. ประการแรก เป็นยุคแห่งวิญญาณชั่วมีอำนาจ

“และต่อมาเมื่อมนุษย์เริ่มทวีมากขึ้นบนพื้นแผ่นดินโลก และพวกเขาให้กำเนิดบุตรสาวหลายคน บุตรชายทั้งหลายของพระเจ้าเห็นว่าบุตรสาวทั้งหลายของมนุษย์สวยงาม และพวกเขารับเธอทั้งหลายไว้เป็นภรรยาตามที่พวกเขาเลือกไว้ คำเตือนของพระเจ้าถึงการพิพากษา และพระเยโฮวาห์ตรัสว่า “วิญญาณของเราจะไม่วิงวอนกับมนุษย์ตลอดไป เพราะเขายังเป็นแต่เนื้อหนัง ถึงอย่างนั้นอายุของเขาจะเป็นเพียงหนึ่งร้อยยี่สิบปี ในคราวนั้นมีพวกมนุษย์ยักษ์บนแผ่นดินโลก และหลังจากนั้น เมื่อบุตรชายทั้งหลายของพระเจ้าเข้าหาบุตรสาวทั้งหลายของมนุษย์ และเธอทั้งหลายคลอดบุตรให้แก่พวกเขา บุตรเหล่านั้นกลายเป็นคนมีอำนาจมากซึ่งอยู่ตั้งแต่สมัยโบราณ เป็นคนมีชื่อเสียง และพระเจ้าทรงเห็นว่าความชั่วร้ายของมนุษย์มีมากบนแผ่นดินโลก และเค้าความคิดทุกอย่างแห่งความคิดทั้งหลายในใจของเขาล้วนแต่ชั่วร้ายอย่างเดียวเสมอไป” (ปฐมกาล 6:1-5)

พระคัมภีร์ฉบับสคอลฟิวด์ กล่าวว่า "เป็นการแต่งงานระหว่างเชื้อสายของคาอินกับเสท" แต่เนื้อหานี้บันทึกผิด "บุตรของพระเจ้า" คือพวกทูตสวรรค์ที่หลงทำบาปโดยไปล่วงประเวณีกับ "ลูกสาวของมนุษย์" ดร. ไรรีย์ กล่าวว่า “ประโยคที่ว่า 'บุตรของพระเจ้า' ที่กล่าวไว้ในพันธสัญญาเดิม [OT] คือพวกทูตสวรรค์ ... ในยุคนี้ [พวกเขาทำ] อยู่ร่วมกินกับผู้หญิงที่เป็นมนุษย์เพื่อให้ตั้งครรภ์" (Ryrie Study Bible, note on Genesis 6:2) อ้างอิงจากพระธรรมยูดาห์ข้อที่ 6 และ 7 เป็นแหล่งข้อมูล ดร. เอ็ม อาร์ ดีฮาน กล่าวว่า "พวกทูตเหล่านี้ตกจากสถานะแรกของพวกเขาที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นทูตสวรรค์ที่บริสุทธิ์ บาปของพวกเขาเป็นเช่นเดียวกับคนที่เมืองโสโดม – โดยธรรมชาติในฝ่ายเนื้อหนัง – เลยทำให้การพิพากษาของพระเจ้าตกลงมายังคนเหล่านั้น" (M. R. DeHaan, M.D., The Days of Noah, Zondervan Publishing House, 1963, p. 144)

นี่คือมุมมองของพวกพระธรรมาจารย์ของชาวยิวในสมัยโบราณ และผมเชื่อว่าโดยพื้นฐานแล้วนี่ถูกต้อง อย่างไรก็ตามมีนักวิชาการหลายคนสงสัยว่าทูตสวรรค์ (ตอนนี้เรียกได้ว่าเป็นวิญญาณชั่ว) มามีเพศสัมพันธ์กับผู้หญิงในสมัยของโนอาห์ได้อย่างไรกัน

”ผู้เป็นศิษยาภิบาลที่ยาวนานของผมที่คริสตจักรแบ๊บติสจีนคือ ดร. ทิโมธี หลิน นอกจากนี้ท่านยังเป็นนักวิชาการพันธสัญญาเดิม และเป็นหนึ่งในนักแปลพระคัมภีร์ฉบับมาตรฐานอเมริกันใหม่ (NASV) และยังสอนตามพระคริสตธรรมต่างๆของพวกอนุรักษ์นิยม ดร. หลินชี้ให้เห็นคำตอบถึงสาเหตุที่พวกทูตสววรค์นำมนุษย์มาเป็นภรรยานั้น ท่านบอกว่าทูตสวรรค์เหล่านี้ คือพวกที่หลงทำบาปและเข้ามาครอบงำมนุษย์ และเพราะการครอบงำนี้จึงทำให้พวกเขาหลงทำบาปโดยไปล่วงประเวณีกับพวกผู้หญิงที่มีแต่ตัณหา ท่านกล่าวว่า "เหล่าทูตสวรรค์ชั่วเหล่านั้นกำลังผลิตลูกหลานแห่งความชั่ว [ที่] ไร้ซึ่งศิลธรรมจรรยา" (Timothy Lin, Ph.D., Genesis: A Biblical Theology, Biblical Studies Ministries International, 2002, pp. 96-97). ดร. หลีน ยังกล่าวอีกว่า

         ยุคนี้เป็นช่วงเวลาที่เปิดกว้างให้กับซาตานที่เข้ามาแทรกแซงกิจการของมนุษย์ มารจึงนำราคะตัญหาทำลายมนุษย์ การแต่งงานของคนในสมัยนี้ ได้ทำลายการแต่งงานที่ศักดิ์สิทธิ์ โดยใส่ความหมายแห่งการเห็นแก่ตัวและตัณหาไว้ในใจของมนุษย์ และทำชั่วมากขึ้นและร้ายแรงยิ่งกว่าเก่า เพราะความคิดผสมผสานที่ว่าบุตรของพระเจ้าและลูกสาวของมนุษย์ จึงทำให้เชื้อสาวมนุษย์แปลกประหลาดและแปลกไปจากธรรมชาติของมนุษย์ ดังนั้นเชื้อสายของมนุษย์จึงสูญหาย และกลายเป็นเชื้อสายของซาตาน ด้วยเหตุนี้พวกเขาจึงปฏิเสธพระผู้ไถ่ และการพระมนุษย์ของพระองค์
         ซาตานคือผู้อยู่เบื้องหลังแห่งประชากรของโลก ผู้คนมีใจจดจ่ออยู่กับการ "กิน ดื่ม แต่งงานและให้การแต่งงาน จนถึงวันเวลาที่โนอาห์เข้าไปในนาวาแล้ว" (มัทธิว 24:38) นอกจากนี้ "โลกที่เต็มไปด้วยความรุนแรง" (ปฐมกาล 6:11, 13) เป้าหมายหลักของซาตานคือทำให้คนที่มีความเชื่ออ่อนแอ ชั่วร้าย ใจทราม ทุจริตและใช้ความรุนแรงในช่วงนี้คือการบุกรุกและรบกวนโดย “บุตรของพระเจ้า” ผู้ซึ่ง…ล่อลวงผู้คนในสมัยนั้น (ibid.).

ลองดูที่ปฐมกาล 6:4

“ในคราวนั้นมีพวกมนุษย์ยักษ์บนแผ่นดินโลก และหลังจากนั้น เมื่อบุตรชายทั้งหลายของพระเจ้าเข้าหาบุตรสาวทั้งหลายของมนุษย์ และเธอทั้งหลายคลอดบุตรให้แก่พวกเขา บุตรเหล่านั้นกลายเป็นคนมีอำนาจมากซึ่งอยู่ตั้งแต่สมัยโบราณ เป็นคนมีชื่อเสียง” (ปฐมกาล 6:4)

พระคัมภีร์ฉบับ KJV เรียกว่าลูกแห่งซาตาน “พวกมนุษย์ยักษ์” แต่นั่นแปลผิด การอธิบายอย่างนี้มีสาเหตุมาจากการแปลหรือตีความคำในภาษาฮีบรูนี้ “เนปฮิวลิม” ผิดจากความเป็นจริงโดยพวกธรรมจารย์ในสมัยโบราณ ตามพระคัมภีร์ฉบับเซปตัวจินท์ที่แปลจากภาษาฮีบรูมาเป็นภาษากรีกแปลคำนี้คำว่า “กิดดาเทส” หรือ (พวกมนุษย์ยักษ์) แต่ตามภาษาฮีบรูคำว่า “เนปฮิวลิม” ไม่ได้หมายถึง “พวกมนุษย์ยักษย์” แต่หมายถึง “พวกทูตสวรรค์ที่หลงทำบาป” ดร. เฮนนรี่ เอ็ม มอรรี่ กล่าวว่า "ความหมายดั้งเดิมน่าจะเป็น 'ผู้ที่ตกจากมาตราฐาน' ซึ่งเป็นการอ้างอิงถึง ... พวกทูตสวรรค์ที่ตกจากมาตราฐานของพระเจ้าไปหลงทำบาป ... ลูกที่ถูกมารหรือวิญญาณชั่วครอบครองไม่ว่าจะเป็นหญิงหรือชายต่างก็เป็นหนึ่งเดียวกับวิญญาณชั่วนี้ [nephilim หรือ ‘ทูตสวรรค์ที่ตกจากมาตราฐาน’]” (Henry M. Morris, Ph.D., The Genesis Record, Baker Book House, 1986 edition, p. 172; note on Genesis 6:4) ดังนั้นเราสามารถแปลปฐมกาล 6:4 ได้ดังนี้ "ผู้อาศัยอยู่ในโลกที่ตกจากมาตราฐาน ณ เวลานั้น และหลังจากนั้น ตอนที่บุตรของพระเจ้า [วิญญาณครอบงำ] มาหาลูกสาวของมนุษย์ และทำให้หญิงพวกนั้นตั้งครรภ์..." ผู้คนที่อาศัยอยู่ในช่วงก่อนน้ำท่วมโลก จะดำเนินชีวิตอยู่และถูกครอบงำโดยพวกวิญญาณชั่ว แผนของซาตานนี้ใช้ได้ผลทีเดียว นั่นคือทำลายเผ่าพันธุ์มนุษย์ และเกือบหยุดการเสด็จมาของพระเยซูคริสต์ พวกมนุษย์ปีศาจนี้ถูกอธิบายไว้ในปฐมกาล 6:5 แล้วอะไรล่ะที่ขัดขวางแผนของซาตานนี้? ดู ปฐมกาล 6:8

“แต่โนอาห์เป็นที่โปรดปรานในสายพระเนตรของพระเยโฮวาห์” (ปฐมกาล 6:8)

โนอาห์และครอบครัวของเขารอดพ้นจากแผนการครอบครองของซาตานโดยพระคุณของพระเจ้า พระองค์สงวนชีวิตครอบครัวนี้ไว้ตอนส่งน้ำท่วมมาทำลาย "พวกที่ตกจากมาตราฐาน" ถ้าคุณเป็นส่วนหนึ่งที่ถูกเลือกโดยพระเจ้า คุณไม่จำเป็นต้องกลัวเพราะพระคุณของพระเจ้านั้นทรงพลังแข็งแกร่งเหนือกว่าซาตานและสมุนของมัน ลูเทอร์กล่าวว่า "แม้ว่าโลกนี้เต็มไปด้วยพวกวิญญาณชั่ว เราก็ไม่ควรกลัว เพราะว่าความจริงของพระเจ้ามีชัยผ่านตัวเราเหนือวิญญาณชั่วเหล่านั้น" แต่ถ้าคุณยังไม่ได้รับความรอด เป็นสิ่งที่น่ากลัวให้กับคุณ! และก็นำเราไปยังประการที่สอง

II. ประการที่สอง เราอยู่ในยุคที่ซาตานกำลังทำงานหนัก

นี่นำเรากลับไปที่คำตรัสของพระเยซู ซึ่งพระองค์ตรัสว่า

“ด้วยสมัยของโนอาห์เป็นอย่างไร เมื่อบุตรมนุษย์เสด็จมาก็จะเป็นอย่างนั้นด้วย” (มัทธิว 24:37)

ดร. เอ็ม อาร์ ดีฮาน กล่าวว่า

อะไรที่เราสามารถมองเห็นในสภาพของทุกวันนี้ที่มีความคล้ายคลึงกับวันของโนอาห์ ... แน่นอนหนึ่งในนั้นคือความบอดในฝ่ายจิตวิญญาณและการปฏิเสธพระวจนะของพระเจ้า ล้มเหลวที่จะมาคิดถึงวันของโนอาห์เช่นนี้ ... (M. R. DeHaan, The Days of Noah, Zondervan Publishing House, 1971 edition, page 149)

ในสมัยของโนอาห์ ซาตานใช้อำนาจครอบครองโลก – และเกือบจะทำลายเผ่าพันธุ์มนุษย์ไปเสียทั้งหมด

ตลอดทั้งชีวิต ผมได้เห็นว่าพลังอำนาจของซาตานนี้เพิ่มมากขึ้นไปทั่วโลก ในปี 1960 ดูเหมือนว่าโลกนี้ถูกทำลายมากขึ้น คนหนุ่มสาวจำนวนมากปล่อยตัวเองให้มารครอบงำโดยไปเสพยาเช่น LSD พวกที่ใช้ยาเสพติดในทุกวันนี้ทำให้ LSD ดูเหมือนเป็นขนม ปี 70 ผมเทศนาท่ามกลางนหมู่ฮิปปี้ที่เมืองซานฟรานซิสโก ผมสามารถบอกคุณได้เลยว่าเด็กส่วนใหญ่ในสมัยนั้นล้วนอยู่ภายใต้อิทธิพลครอบงำของซาตาน ผมก็เห็นด้วยตาถึงพวกที่ถูกวิญญาณเข้าสิง ปี 1973 ศาลฎีกาของประเทศสหรัฐอเมริกาอนุญาติให้การทำแท้งเป็นเรื่องที่ถูกกฎหมายทั่วอเมริกา ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาประมาณ 55 ล้านเด็กทารกถูกฆ่าในท้อง โดยพวก “หมอ” ที่ถูกมารครอบงำ เราค้นพบจากการทำพันธกิจให้กับคนหนุ่มสาวในเมืองซานฟรานซิสโกและ ลอส แอนเจลิส ผู้หญิงเกือบทุกคน "ที่ต้องการ" ทำแท้งกลายเป็นคนที่ถูกมารเข้าครอบงำ ทุกวันนี้ผู้หญิงเหล่านี้ ตลอดจนพวกผู้ชายที่ใช้สารเสพติด พยายามรวมตัวกันเลือกบารัก โอบาเข้ามาเป็นประธานาธิบดีครั้งที่สอง เพราะนายโอบามามีความคิดหลายอย่างที่ค่อนข้างชัดเจนเกี่ยวข้องกับวิญญาณชั่ว ผมเองเชื่อว่าเขาเคยถูกวิญญาณชั่วเข้าสิงตอนที่กำลังเข้าร่วม คริสตจักร (21 ปี) โดยมีศิษยสภิบาลที่ชื่อ ดร. เยเรมีย์ ไรท์ และเขาเคยกรีดร้องผ่านทางโทรทัศน์ว่า "พระเจ้าทรงแช่งอเมริกา!” "พระเจ้าแช่งอเมริกา!” พระ"พระเจ้าทรงแช่งอเมริกา!" ผมไม่เคยเห็นคนที่เข้าร่วมคริสตจักรของท่านเกือบทุกวันอาทิตย์เป็นเลาถึง 21 ปีจะถูกวิญญาณเข้าสิง! ดังนั้นจึงไม่ควรแปลกใจที่ประธานาธิบดีของเราดูเหมือนว่าจะแอนเอียงไปทางมุสลิมมากกว่าคริสเตียน พวกเขาดูเหมือนจะถูกดึงเข้าด้วยกันด้วยวิญญาณชั่วตนเดียวกัน

ผมอยากพูดถึงการเพิ่มจำนวนมากขึ้นของพวกรักร่วมเพศหรือที่เรียกว่า "เกย์" หรือผู้หญิงแต่งผู้หญิง และผู้ชายแต่งกับผู้ชาย ผมอยากพูดถึงสื่อลามก - ดูตอนนี้ดูเหมือนมีมากกว่า 95% วัยรุ่นที่เป็นเด็กผู้ชายใช่หรือไม่? จำเป็นที่ผมต้องพูดถึงชนิดของเพลงหนักและคอนเสิร์ตร็อคที่ทำให้ฝูงชนหรือคนดูต้องสั่นสะเทือนเหมือนถูกสะกดด้วยเพลงเหล่านั้นเป็นอย่างนั้นหรือเปล่า? จำเป็นที่ผมจะต้องมาพูดถึงความสกปรกเลวร้ายและการฆ่ากันที่น่ากลัวจากภาพยนตร์ของฮอลลีวู้ดเกือบทุกเรื่องในวันนี้ด้วยหรือ? ดร. เจ เวอร์นอน แมคกี้ กล่าวว่า

มีคนมากมายที่ถูกวิญญาณเข้าสิงในทุกวันนี้ ... เราสามารถมองเห็นอาการของคนที่มีวิญญาณเข้าสิง มีหลักฐานจำนวนมากมากแสดงให้เราเห็น (J. Vernon McGee, Th.D., Thru the Bible, Thomas Nelson Publishers, volume IV, 1983, p. 51; comment on Matthew 8:32)

ดร. แมคกี้ ผู้ซึ่งได้รับการยกย่องว่าเป็นนักสอนพระคัมภีร์ นอกจกานี้ ดร. ลอยด์ โจนส์ได้รับขนานนามว่าเป็นหนึ่งในนักเทศน์ที่ยิ่งใหญ่ในยุคศตวรรษที่ยี่สิบ ท่านเป็นศิษยาภิบาลที่ตริสตจักร เวสมินสเตอร์ที่ตั้งอยู่ใจกลางกรุงลอนดอนประเทศอังกฤษมาเป็นเวลานานกว่ายี่สิบห้าปี ดร. ลอยด์โจนส์กล่าวว่า

วิญญาณชั่วเข้าสิง คือในช่วงที่จิตวิญญาณของเราตกต่ำ และประเทศมีแต่คนที่ไม่เชื่อว่ามีพระเจ้า (Martyn Lloyd-Jones, M.D., Healing and the Scriptures, Oliver-Belson Books, 1988, p. 159)

พระคัมภีร์ได้ทำนายกิจกรรมต่างๆของวิญญาณชั่วในยุคสุดท้าย อัครทูตเปาโลกล่าวว่า

“แต่จงเข้าใจข้อนี้ด้วย คือว่าในวันสุดท้ายนั้น จะเกิดเหตุการณ์กลียุคเหตุว่าคนจะเป็นคนรักตัวเอง เป็นคนเห็นแก่เงิน เป็นคนอวดตัว เป็นคนจองหอง เป็นคนพูดหมิ่นประมาท เป็นคนไม่เชื่อฟังคำบิดามารดา เป็นคนอกตัญญู เป็นคนไร้ศีลธรรมเป็นคนไม่รักซึ่งกันและกัน เป็นคนไม่ทำตามสัญญา เป็นคนหาความใส่เขา เป็นคนไม่มีสติรั้งใจ เป็นคนดุร้าย เป็นคนชังคนดี เป็นคนทรยศ เป็นคนมุทะลุ เป็นคนหัวสูง เป็นคนรักความสนุกสนานยิ่งกว่ารักพระเจ้าเขามีสภาพทางของพระเจ้าภายนอก แต่ฤทธิ์ของทางนั้นเขาปฏิเสธเสีย คนอย่างนี้ท่านจงผินหน้าหนีจากเขาเสียด้วย” (2 ทิโมธี 3:1-5)

“และตั้งแต่เด็กมาแล้ว ที่ท่านได้รู้พระคัมภีร์อันบริสุทธิ์ ซึ่งมีฤทธิ์สอนท่านให้ได้ปัญญาถึงความรอดโดยความเชื่อในพระเยซูคริสต์” (2 ทิโมธี 3:13)

อัครสาวกเปาโลชี้ให้เห็นว่าการงานของวิญญาณชั่วเหล่านี้จะบุกเข้าไปคริสตจักรเคลือนุรักษ์นิยมในยุคสุดท้าย

“และเขาจะบ่ายหูจากความจริง หันไปฟังเรื่องนิยายต่าง ๆ” (2 ทิโมธี 4:4)

“ด้วยสมัยของโนอาห์เป็นอย่างไร เมื่อบุตรมนุษย์เสด็จมาก็จะเป็นอย่างนั้นด้วย” (มัทธิว 24:37)

เราอยู่ในยุคที่วิญญาณชั่วกำลังทำงานหนัก พระเยซูเท่านั้นที่ช่วยเราได้!

ในยุคแห่งวิญญาณชั่วที่เราอาศัยอยู่นี้ ทุกคนต้องคอยเฝ้าระวังคอยถึงหมายสำคัญต่างๆที่เปโตร บอกเราเอาไว้

“ท่านทั้งหลายจงเป็นคนใจหนักแน่น จงระวังระไวให้ดี ด้วยว่าศัตรูของท่าน คือพญามาร วนเวียนอยู่รอบ ๆ ดุจสิงโตคำราม เที่ยวไปเสาะหาคนที่มันจะกัดกินได้” (1 เปโตร 5:8)

คุณเคยสงสัยหรือเปล่าว่าทำไมถึงยากยิ่งนักที่พวกคุณบางคนจะเข้ามาวางใจพระเยซูและรับเอาความรอด คุณเคยคิดบ้างหรือเปล่าว่าอาจจมีวิญญาณชั่วควบคุมจิตใจของคุณ – สิ่งสุดท้ายที่ซาตานพยายามทำคือให้คุณเป็นทาสของมัน พระคัมภีร์กล่าวถึงผู้ที่มีชีวิตอยู่อย่างทาส (หรือเป็นทาส) ของวิญญาณชั่ว “ตลอดชีวิตของพวกเขา” (ฮีบรู 2:14, 15)

นั่นคือเหตุผลที่พระเยซูเสด็จมา – ช่วยคุณให้เป็นอิสระจากการเป็นทาสของวิญญาณชั่ว ช่วยให้คุณเป็นอิสระจากซาตาน! พระเยซูสิ้นพระชนม์บนไม้กางเขนเพื่อชดใช้ค่าแห่งบาปของคุณ แล้วพระเยซูก็ทรงฟื้นพระชนม์ช่วยคุณให้รอดพ้นจากการเป็นทาสของวิญญาณชั่ว! จงเข้ามาสารภาพและขอร้องพระเยซูเพื่อช่วยให้คุณรอดพ้นจากซาตาน! จงเข้ามาสารภาพและขอร้องพระเยซูให้อภัยบาปของคุณและประทานชีวิตใหม่ให้คุณ! พระเยซูทรงตรัสว่าพระเจ้าทรงส่งพระองค์ "เพื่อประกาศอิสรภาพให้แก่บรรดาเชลยและ ... ให้ประกาศแก่คนตาบอดว่าจะได้เห็นอีก ให้ปล่อยผู้ฟกช้ำเป็นอิสระ" (ลูกา 4:18) โอ้ เข้ามา เข้ามา – ที่พระเยซู! "ไม่มีใคร นอกจากพระเยซู ไม่มีใคร นอกจากพระเยซู ที่ทรงสามารถช่วยผู้สิ้นหวังให้กลับมามีชีวิตที่ดีขึ้น"

อย่าไปคิดถึงซาตาน! คิดแต่พระเยซูเท่านั้น! จงเข้ามาหาพระเยซูและพระองค์จะช่วยให้คุณมีอิสระจากบาปและความตาย! พระเยซูทรงช่วยให้คุณรอด! "วางใจในพระองค์เท่านั้น วางใจพระองค์เท่านั้น วางใจพระองค์ในขณะนี้ พระองค์ช่วยให้คุณรอด พระองค์ช่วยให้คุณรอดเดี๋ยวนี้"! โอ้หันหลังจากบาปและเข้ามาวางใจพระผู้ช่วยให้รอด ณ เวลานี้!

ถ้าคุณอยากจะคุยกับพวกเราเกี่ยวกับการรับการชำระบาปโดยโลหิตของพระเยซู กรุณาออกจากที่นั่งของคุณตอนนี้และเดินไปที่ด้านหลังของห้องนมัสการนี้ ดร. คาเกน จะนำพวกคุณไปยังอีกห้องหนึ่งเพื่อให้คำปรึกษาและอธิษฐานเผื่อ ดร. ชาน กรุณานำเราอธิษฐานเผื่อคนที่ไว้วางใจในพระเยซูนี้ด้วย อาเมน

(จบการเทศนา)
คุณสามารถอ่านบทเทศนาของ ดร. ฮิวเมอร์ ได้ในแต่ละอาทิตย์ทางอินเตอร์เนทได้ที่
www.realconversion.com. (กดที่นี่) “บทเทศนาในภาษาไทย”

คุณสามารถส่งอีเมล์ถึง ดร. ไฮเมอร์ส ที่ rlhymersjr@sbcglobal.net
– หรือเขียนจดหมายส่งไปให้เขาที่ P.O. Box 15308, Los Angeles, CA 90015.
หรือโทรศัพท์ถึงเขาที (818) 352-0452.

หมายเหตุ: ต้นฉบับของบทเทศนาเหล่านี้ไม่ได้สงวนลิขสิทธิ์
คุณสามารถนำไปใช้โดยที่ไม่ต้องขออนุญาตจาก ดร. ไฮเมอร์ส
แต่อย่างไรก็ตามข้อความทั้งหมดของ ดร. ไฮเมอร์ส
ที่อยู่ในรูปวิดีโอนั้นมีการสงวนลิขสิทธิ์และต้องได้รับการอนุญาตเท่านั้นถึงจะสามารถนำมาใช้ได้

อ่านพระคัมภีร์ก่อนเทศนาโดย อาเบล พลูโฮมมี: ปฐมกาล 6:1-8.
ร้องเพลงเดี่ยวพิเศษโดย มร. เบนจามิน คินเคด กริฟฟิท์:
“Then Jesus Came” (โดย Dr. Oswald J. Smith, 1889-1986).


โครงร่างของ

วิญญาณชั่วในโลกแห่งยุคนี้

(บทเทศนา # 79 จากพระธรรมปฐมกาล)
DEMONS IN THE WORLD TODAY
(SERMON #79 ON THE BOOK OF GENESIS)
(Thai)

โดย ดร. อาร์ เอล์ ไฮเมอร์ส จูเนียร์
by Dr. R. L. Hymers, Jr.

“และต่อมาเมื่อมนุษย์เริ่มทวีมากขึ้นบนพื้นแผ่นดินโลก และพวกเขาให้กำเนิดบุตรสาวหลายคน บุตรชายทั้งหลายของพระเจ้าเห็นว่าบุตรสาวทั้งหลายของมนุษย์สวยงาม และพวกเขารับเธอทั้งหลายไว้เป็นภรรยาตามที่พวกเขาเลือกไว้” (ปฐมกาล 6:1-2).

(มัทธิว 24:3, 37; ยูดาห์ 15; ปฐมกาล 5:22; 6:9)

I. ประการแรก เป็นยุคแห่งวิญญาณชั่วมีอำนาจ ปฐมกาล 6:1-5; มัทธิว 24:38; ปฐมกาล 6:11, 13, 4, 8.

II. ประการที่สอง เราอยู่ในยุคที่ซาตานกำลังทำงานหนัก
มัทธิว 24:37; 2 ทิโมธี 3:1-5, 13; 4:4; 1 เปโตร 5:8;
ฮีบรู 2:14, 15; ลูกา 4:18.