Print Sermon

เป้าหมายของเว็ปไซต์นี้คือจัดเตรียมบทเทศนาที่เขียนจากต้นฉบับ และในรูปแบบวีดีโอให้กับผู้รับใช้ และมิชชั่นนารีที่ไปรับใช้ในต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศในโลกที่สามที่ขาดแคลนพระคริสตธรรมหรือโรงเรียนอบรมพระคัมภีร์

ต้นฉบับของบทเทศนาเหล่านี้ถูกอ่านในคอมพิวเตอร์ประมาณ 1,500,000 เครื่อง และมากกว่า 221 ประเทศในแต่ละปี โปรดไปอ่านได้ที www.sermonsfortheworld.com ในขณะเดียวกันมีหลายร้อยคนดูวิดีโอบน YouTube และหลังจากนั้นคนเหล่านั้นก็จะย้ายจากดู YouTube มาอ่านเว็บไซต์ของเรา YouTube นำคนมาที่เว็บไซต์ของเรา บทเทศนาต้นฉบับนี้ถูกแปลออกเป็น 46 ภาษา และมีคนอ่านในคอมพิวเตอร์มากถึง 120,000 ทุก ๆ เดือน บทเทศนาต้นฉบับนี้ไม่สงวนลิขสิทธิ์ อนุญาตให้นักเทศนาสามารถนำไปใช้เทศน์ได้ นอกจากนี้ยังมีในรูปแบบวีดีโอเป็นร้อย ๆ ซึ่งเทศน์โดย ดร. ไฮเมอร์ส และนักศึกษาของท่าน บทเทศนาต้นฉบับไม่สงวน แต่จะสงวนเฉพาะในรูปแบบวีดีโอ กรุณาคลิกที่นี่เพื่อเรียนรู้ว่าจะสนับสนุนการประกาศพระกิตติคุณไปทั่วโลกได้อย่างไร

ตอนที่คุณเขียนหนังสือไปให้ ดร. ไฮเมอร์ส บอกท่านเสมอว่าคุณเขียนมาจากประเทศอะไร หรือท่านไม่ได้ตอบคุณ อีเมล์ของ ดร. ไฮเมอร์ส คือ rlhymersjr@sbcglobal.net




การเป็นลูกบุญธรรม

ADOPTION!
(Thai)

โดย ดร. อาร์ เอล์ ไฮเมอร์ส จูเนียร์
by Dr. R. L. Hymers, Jr.

เทศนาในตอนเย็นวันของพระเป็นเจ้าที่ 3 เดือนพฤศจิกายน ค.ศ. 2013 ณ
คริสตจักรแบ๊บติสต์แห่งนครลอสแอนเจลิส
A sermon preached at the Baptist Tabernacle of Los Angeles
Lord’s Day Morning, November 3, 2013

“และเพราะท่านเป็นบุตรแล้ว พระเจ้าจึงทรงใช้พระวิญญาณแห่งพระบุตรของพระองค์เข้ามาในใจของท่าน ร้องว่า อับบา คือพระบิดา” (กาลาเทีย 4:6)


หลักคำสอนเรื่องตรีเอกานุภาพเป็นคำสอนขั้นพื้นฐาน คริสเตียนที่แท้จริงจะไม่ยอมรับทุกคำสอนที่ปฏิเสธหลักคำสอนของตรีเอกานุภาพ หลักคำสอนเรื่องตรีเอกานุภาพเป็นรากฐานของศาสนาคริสต์ ในพระธรรมของเราจะกล่าวถึงความเป็นตรีเอกานุภาพอยู่ในข้อเดียวกัน พระเจ้าพระบิดาแห่งความรอด เราถูกบอกเอาไว้ว่าพระองค์ส่งพระวิญญาณบริสุทธิ์ของพระบุตรของพระองค์เข้าไปในหัวใจของคนที่กลับใจใหม่แล้ว แม้ว่าเราจะไม่เข้าใจพระเจ้าทั้งหมดก็ตาม แต่เราก็เห็นพระองค์สำแดงตัวพระองค์เองในพระคัมภีร์ ดังนั้นเราจึงยอมรับตรีเอกานุภาพโดยความเชื่อ

พระธรรมของเราตอนนี้ว่าบุคคลทั้งสามคือพระเจ้า คำว่าพระเจ้าพระบิดาถูกกล่าวไว้สองครั้งในพระธรรมข้อนี้ -อีกครั้งหนึ่งกล่าวถึง "พระเจ้า" อีกครั้งหนึ่งในฐานะ "พ่อ" พระธรรมข้อนี้ยังบอกว่าพระคริสต์ทรงเป็นพระเจ้า พระองค์ทรงบังเกิดมามีเลือดเนื้อจากผู้หญิงคนหนึ่ง แต่ก็ยังมีการอธิบายถึงำรพองค์ว่า "ส่งออก" - และดังนั้นพระองค์ทรงมีอยู่ก่อนที่จะบังเกิดมา และยังเรียกพระองค์ว่า "พระบุตร" - ซึ่งในพระคัมภีร์หมายความว่าเขามีชีวิตเหมือนกัน (หรือสาระสำคัญ) ในฐานะพระบิดา นี้พิสูจน์ให้เห็นว่าพระองค์ทรงเป็นพระเจ้า จากนั้นพระวิญญาณบริสุทธิ์ทำบางสิ่งที่พระเจ้าเท่านั้นที่สามารถทำได้ พระองค์ทรงประทับอยู่ในหัวใจของลูก ๆ ของพระองค์ ดังนั้นเราจึงมีชื่อของบุคคลทั้งสามคนในตรีเอกานุภาพ - "พระเจ้าพระบิดา" "พระวิญญาณ" และ "พระบุตรของพระองค์"

คริสเตียนที่แท้จริงรู้ว่าทั้งบุคคทั้งสามคนมีส่วนสำคัญในความรอดของเรา เรารักพระบิดาเพราะพระองค์ทรงเลือกให้เราเป็นลูก ๆ ของพระองค์ เรารักพระบุตรเพราะทรงหลั่งโลหิตของพระองค์โดยถูกตรึงบนไม้กางเขนเพื่อชำระบาปของเรา เรารักพระวิญญาณบริสุทธิ์เพราะพระองค์ทรงทำให้เรารู้จักบาปและนำเราไปสู่พระคริสต์ นั่นคือเหตุผลที่เราร้องสองบทเพลงเพลงสั้น ๆ นี้ ในทุกครั้งที่เรมีการนมัสกา อำดับแรกเราร้องเพลง สรรเสริญ ซึ่งเขียนโดยโทมัส เคนในศตวรรษที่ 17

สรรเสริญพระเจ้าที่ประทานพระพรลงมา
ทุกสิ่งในโลกจงสรรเสริญพระองค์
ทุกคนในสวรรค์จงสรรเสริญพระองค์
สรรเสริญพระบิดา พระบุตร และพระวิญญาณบริสุทธิ์ อาเมน
      (“The Doxology” โดย Thomas Ken, 1637-1711).

และเราก็ยังร้องเพลง "Gloria Patri" ซึ่งเขียนโดยบุคคลท่านหนึ่งในช่วงต้นศตวรรษที่ 2

พระเกียรติจงมีแด่พระบิดาและพระบุตร
   และพระวิญญาณบริสุทธิ์
ขณะที่กำลังเริ่มต้นอยู่ในขณะนี้
   และเคยต้อง
โดยโลกที่ไม่มีวันสิ้นสุด อาเมน
      (“Gloria Patri,” source unknown, early 2nd century).

เราจะร้องสองบทเพลงที่สั้น ๆ ทุกครั้งในทุกวันอาทิตย์ - เพราะพวกเขาสรรเสริญยกย่องและถวายพระเกียรติแด่พระตรีเอกภาพ เพราะพระองค์ทรงเป็นพระเจ้าของเรา

พวกมอร์มอนบอกว่ามีพระเจ้าแยกออกเป็นสามพระเจ้า แต่พวกเขาผิด จริงๆแล้วมีเพียงพระเจ้าองค์เดียวในสามบุคคล พวกพยานพระยะโฮวาห์ปฏิเสธความเป็นพระเจ้าของพระเยซู แต่พวกเขาผิด พระ พระเยซูทรงเป็นพระเจ้า บุคคลที่สองในตรีเอกานุภาพ ชาวมุสลิมปฏิเสธพระบุตรและพระวิญญาณพระองค์ว่าไม่ใช่พระเจ้า แต่พวกเขาผิด บุคคลทั้งสามคือพระเจ้า พวกโปรเตสแตนต์สายเสรีนิยมก็ยังปฏิเสธบุคคลทั้งสามนี้ด้วย เช่นเดียวกันกับพวกยูนิเทเรียนในปัจจุบัน – เรียกคนทั้งสองกลุ่มว่าพวกงมงายจะดีที่สุด ศาสนศาสตร์สายเสรีนิยมไม่ว่าที่มหาวิทยาลัยฟุลเลอร์ หรือ แคลร์ บัณฑิตวิทยาลัย สอนเรื่องตรีเอกานุภาพผิดเพี้ยนกับที่เคยสอนในที่ผ่านๆมา ในที่นี้จึงหมายความว่ามุมมองแบบเสรีนิยมเกี่ยวกับพระเจ้าได้นำ เราเข้าความเชื่อแบบยูนีเทเรียนนิยม - และสุดท้ายก็นำไปสู่การปฏิเสธและเชื่อว่าไม่มีพระเจ้า

แต่ในพระคัมภีร์เองสอนว่าพระเจ้าคือตรีเอกานุภาพ - และเราจะต้องนมัสการพระเจ้าองค์เดียวนี้เท่านั้น - พระบิดาพระบุตรและพระวิญญาณบริสุทธิ์ เราจะต้องยืนหยัดอยู่บนความจริงของแบ๊บติสต์โปรเตสแตนต์ของเราที่เชื่อสืบทอดกันมา และกับคนส่วนใหญ่ที่เรียกตัวเองว่า "คริสเตียน" รวมทั้งคาทอลิกและออร์โธดอกที่สอนว่าพระเจ้าทรงเป็นตรีเอกานุภาพ นอดีตของแบ็บติสต์ใและอีเวนเจลิคอล์สต่องยืนหยัดเรื่องคำสอนของตรีเอกานุภาพ

“และเพราะท่านเป็นบุตรแล้ว พระเจ้าจึงทรงใช้พระวิญญาณแห่งพระบุตรของพระองค์เข้ามาในใจของท่าน ร้องว่า อับบา คือพระบิดา” (กาลาเทีย 4:6)

เราเห็นพระเจ้าแห่งตรีเอกานุภาพจากพระธรรมข้อนี้ ให้เรามาดูถึงสิ่งพระธรรมข้อนี้บอกเรา มีความหมายมาก

I. หนึ่ง พระธรรมข้อนี้พูดถึงเรื่องการรับรองความเป็นบุตร

ในข้อนี้กล่าวว่า "ท่านเป็นบุตร" และนี้หมายถึงกลับไปที่บทกวีก่อนหน้านี้ที่บอกว่า "... เพราะท่านเป็นบุตรแล้ว " เป็นเรื่องที่จำเป็นมากที่พระเจ้าจะต้องรับรองเราให้เป็นลูกเพราะโดยธรรมชาติเราไม่ได้เป็น ดังนั้นพระคัมภีร์ถึงกล่าวว่าว่าเราเป็น "ลูกของพระเจ้า" (กิจการ 17:29) แต่นั่นเพียงแค่กล่าวถึงฝ่ายร่างกายของเราซึ่งถูกสร้างขึ้นมาโดยพระเจ้า แต่จะแตกต่างอย่างมากจาก "การยอมรับความเป็นบุตร" ที่พูดเอาไว้ในกาลาเทีย 4:5 นั่นคือการบังเกิดใหม่เท่านั้นถึงจะทำให้เรากลายเป็นบุตรของพระเจ้าได้อย่างถูกต้อง

พ่อของผมจากพวกเราไปตอนผมมีอายุแค่สองปี ตอนที่ผมอายุได้สิบสามปีผมไม่สามารถอยู่กับแม่ของผมอีกเพราะไม่มีห้องว่างให้ผม ดังนั้นผมจึงไปอยู่กับญาติคนอื่น ๆ ตอนอายุ 13 ปี ตอนนั้นผมจะดื่มมากๆและการต่อสู้ ฉันจะออกไปทางประตูหลังในช่วงบ่ายที่เดินข้ามสนามหญ้า และปีนข้ามเก่าพังรั้วและไปที่ บ้านของ ดร. และนางแมคโกแวน แล้วผมจะเล่นหรือดูทีวีกับลูกชายและลูกสาวของพวกเขา

ผมมักจะเคาะประตูด้านหลังบ้านของพวกเขา และรอจนมีคนมานำผมเข้าไปข้างไหน แต่มีวันหนึ่ง นาง แมคโกแวน พูดกับผมว่า "โรเบิร์ต คุณไม่จำเป็นต้องเคาะอีกประตูอีกต่อไป ถ้ามาถึงก็เดินเข้ามาในบ้านได้เลย" จากนั้นผมกำปๆมาๆเดินเหมือนกับคือส่วนหนึ่งของครอบครัว และมีอยู่หลายคืนที่ นาง แมคโกแวนจะเชิญผมให้ไปทานอาหารเย็นกับพวกเขา นั่นที่ทำให้ผมรู้สึกมีความสุข “มาก” ประมาณสี่ปีจากอายุ 13 จนถึง 17 นอกจากนี้พวกเขายังพาผมไปเที่ยวกับพวกเขาในวันหยุดด้วย ผมขอขอบคุณพวกเขาและกล่าวถึงพวกเขาบ่อยๆ ดังนั้นผมมักจะส่งการ์ดให้เธอในวันแม่และส่งการ์ดในวันพ่อ - ตราบเท่าที่พวกเขายังมีชีวิตอยู่ ผมก็ส่งของขวัไปให้ไปให้กับพวกเขาในวันคริสมาสต์ ตอนที่เขาอายุมากแล่ว ผมก็ซื้อแว่นตาในราคาที่ค่อนข้างแพงให้ ดร. แมคโกแวน ตอนที่ท่านเสียชีวิตแว่นตานั้นยังถุกนำไปวางไว้ในโรงศพของท่านตอนที่ผมไปเทศนาในงานศพของท่าน ตอนท่านยังมีชีวิตมักจะบอกว่าผมคือหนึ่งในลูกชายของเขา ผมคิดว่าการที่ท่านพูดอย่างนั้นท่านทราบดีว่ามีความสำคัญต่อผมมากๆ เพราะพ่อของท่านก็เสียชีวิตไปตอนที่ท่านยังเล็กๆ และเขามีพ่อเลี้ยงที่สำคัญมากต่อเขา ใช่ผมเกือบเป็นเหมือนหนึ่งในลูกชายของพวกเขา - เกือบ - แต่ยังไม่สมบูรณ์

นั่นคือทางที่สามารถใช้พูดให้กับพวกคุณบางคน นั่นคือคุณเข้ามาในคริสตจักร คุณแค่รู้สึกว่าคุณเกือบเป็นสมาชิกในครอบครัวของคริสตจักร - เกือบ แต่มีบางสิ่งบางอย่างที่ขาดหายไป คุณค่อนข้างความรู้สึกว่าคุณไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งจริงๆ การยอมรับเป็นบุตรงคือส่วนที่ขาดหายไป! คุณต้องได้รับการรับรองโดยพระเจ้าถึงจะเป็นบุตรได้อย่างแท้จริง หรืออีกทางก็คือคุณไม่มีส่วนที่จะเป็นสามาชิกอย่างแท้จริงในคริสตจักรของเรา แม้ว่าคุณเกิดและเติบโตในคริสตจักรนี้ก็ตาม คุณก็ไม่มีวันพอพึงใจอย่างแท้จริงถึงการเป็นส่วนหนึ่งในคริสตจักร จนกว่าคุณจะได้รับการรับรองให้เป็นส่วนหนึ่งในครอบครัวของพระเจ้า สเปอร์เจียน กล่าวว่าคนที่ไม่ได้กลับใจใหม่ "หมายถึงไม่ได้เป็นลูก แต่อยู่ในสภาพของความผิดทางอาญาและ... ต่อต้าน [พระเจ้า] และไม่อาจรับความรักจากของพ่อของเขา" คุณจะต้องถูกรับให้เป็นลูกของพระเจ้าถึงจะมีความสุขกับการเป็นบุตร ตามบทเพลงที่ไม่ระบุชื่อผู้เขียนในปี 1777 กล่าวว่า

เราเป็นบุตรเพราะผ่านการคัดเลือกโดยพระเจ้า
   คือคนที่เชื่อในพระเยซูคริสต์
ในภายภาคหน้าจะได้พบกับนิรันดร์
   เราได้รับพระคุณของพระเจ้าที่นี่
(221 จำนวนใน "หนังสือเพลงสวดของเราเอง"
      compiled โดย C. H. Spurgeon, 1834-1892).

II. สอง ข้อนี้พูดถึงการสถิตอยู่ของพระวิญญาณบริสุทธิ์ในผู้ที่กลับใจใหม่

“และเพราะท่านเป็นบุตรแล้ว พระเจ้าจึงทรงใช้พระวิญญาณแห่งพระบุตรของพระองค์เข้ามาในใจของท่าน… ” (กาลาเทีย 4:6)

พระบิดาส่งพระวิญญาณบริสุทธิ์มาอยู่กับเรา และพระเจ้าทรงส่งพระวิญญาณบริสุทธิ์เข้าไปในหัวใจของเราในตอนที่เราได้รับความรอด ขอให้สังเกตพระธรรมข้อดีๆว่าพระเจ้าทรงส่งพระวิญญาณบริสุทธิ์ "เข้าไปในใจของคุณ" ซึ่งไม่ได้บอกว่าพระองค์ส่งพระวิญญาณลงไปในสมองของคุณ พระวิญญาณเข้ามาในใจของคุณ เพราะใจของคุณคือศูนย์กลางตัวของคุณ พระคัมภีร์กล่าวว่า "ด้วยใจที่เชื่อไปก็นำไปสู่ความชอบธรรม" (โรม 10:10)

ตอนที่คุณกลายมาเป็นบุตรของพระเจ้าแล้วคุณจะได้รับการผนึกตราโดยพระวิญญาณบริสุทธิ์ ผู้ที่ นำความสงบสุขและนำเราเข้าใกล้กับพระเจ้าและสามัคคีธรรมกับพระองค์ แทนที่จะยืนอยู่ข้างนอกเหมือนลูกชายคนโต แต่คุณได้เข้ามาสามัคคีธรรมร่วมกับพระเจ้าเช่นเดียวกับบุตรน้อยหลงหายที่ตอนกลับใจใหม่แล้ว มีคนมากมายที่นับถือศาสนาคริสต์ แต่ไม่เคยมีประสบการณ์อย่างนี้ ผู้ที่ไม่ไช่ลูกจะไม่รู้ถึงการทรงสถิตอยู่ของพระวิญญาณ พวกเขาสงสัยว่านั่นหมายถึงอะไร บางคนถึงขั้นโกรธพวกเรา เพราะสิ่งที่เรามีแต่พวกเขาไม่มี ผมคิดว่านี่คือเหตุผลหนึ่งที่ทำให้คาอินฆ่าอาเบล ผมคิดว่านั่นคือเหตุผลที่ลูกชายคนโตโกรธเมื่อน้องชายที่ฟุ่มเฟือยกลับมีความสุขเพราะพ่อของเขาจัดงานงานเลี้ยงให้เขา "และเขาก็โกรธและไม่ไปข้างใน" (ลูกา 15:28) ดังนั้นพ่อจึงออกมา "และชักชวนเขา" – และขอร้องเขา (ลูกา 15:28) พระเจ้าทรงขอร้องให้คุณให้มาที่พระคริสต์และเพลิดเพลินไปกับสิทธิประโยชน์ของการเป็นบุตรบุญธรรมของพระองค์! ฟังเพลงเก่าๆนี้

พระบิดาตรัสว่า "มอบใจของเจ้าให้เรา"
   ไม่มีของขวัญใดที่จะมอบให้พระองค์มีค่าเท่ากับรักของเรา
พระองค์กระซิบเบา ๆ ให้กับทุกๆท่าน
   "น่ายินดีเชื่อใจเราและมอบใจของเจ้า"
"มอบใจของเจ้าให้เรา" "มอบใจของเจ้าให้เรา"
   พระองค์กระซิบเบา ๆ ให้กับทุกๆท่าน,
พระองค์นำคุณออกจากโลกมืดนี้
   ดังนั้นเสียงที่พูดอย่างนุ่มนวล "ขอใจเจ้าให้เรา"
(“Give Me Thy Heart” โดย Eliza E. Hewitt, 1851-1920).

เมื่อใดก็ตามที่คุณยอมจำนนที่ต่อพพระคริสต์ คุณก็จะสามารถร้องเพลงนี้

ฉันเป็นลูกของกษัตริย์ ฉันเป็นลูกของกษัตริย์
กับพระเยซูพระผู้ช่วยของฉัน ฉันเป็นลูกของกษัตริย์

III. สาม พระธรรมข้อนี้พูดถึงความใกล้ชิดใหม่และความรักที่มีต่อพระเจ้า

“และเพราะท่านเป็นบุตรแล้ว พระเจ้าจึงทรงใช้พระวิญญาณแห่งพระบุตรของพระองค์เข้ามาในใจของท่าน ร้องว่า อับบา คือพระบิดา” (กาลาเทีย 4:6)

ให้สังเกตสามคำสุดท้ายของข้อนี้ "ร้องว่า อับบา พระบิดา" สังเกตว่าวิญญาณทรงร้องว่า "อับบาพระบิดา" เป็นที่น่าสนใจมาก อัครทูตเปาโลก็พูดเช่นเดียวกันในพระธรรมโรมว่า

“เหตุว่าท่านไม่ได้รับนิสัยอย่างทาสซึ่งทำให้ตกในความกลัวอีก แต่ท่านได้รับพระวิญญาณผู้ทรงให้เป็นบุตรซึ่งให้เราทั้งหลายร้องเรียกพระเจ้าว่า “อับบา” คือพระบิดา” (โรม 8:15)

อำดับแรกพระวิญญาณเองทรงร้องว่า "อับบา พระบิดา" ถ้าอย่างนั้นเราเองก็สามารถที่จะร้องเหมือนกับพระวิญญาณบริสุทธิ์ว่า "อับบา พระบิดา" - " อับบา พระบิดา . " ตอนที่เรากลับใจใหม่พระวิญญาณบริสุทธิ์ทรงดลบันดาลใจให้เราร้องออกมาอย่างนั้นตอนที่เรากลายเป็นบุตรของพระเจ้า

"อับบา" เป็นคำที่เด็กๆใช้เรียก "พ่อ" คำว่า "อับบา" เป็นภาษาอาราเมคใช้เรียกพ่อ เป็นคำที่แสดงความรักที่เด็กๆใช้เรียกพ่อของพวกเขา มันอาจจะแปลว่า "ปาปา" หรือ บางทีแม้แต่ "พ่อ" สเปอร์เจียน กล่าวว่าอับบา "คือคำที่อบอุ่น เป็นธรรมชาติ คำที่แสดงถึงความรัก เหมาะสำหรับคนที่เป็นลูกของพระเจ้า" ตอนพระเยซูทรงเป็นทุกข์อยู่ในสวนเกทเสมเน เขาทรงล้มลงกับพื้นและร้องออกมา "อับบา พระบิดาเจ้าข้า ขอเอาถ้วยนี้จากข้าพระองค์ไปเถิด" (มาระโก 14:36 ) พระองค์ทรงกลัวว่า พระองค์จะสิ้นพระชนม์ในสวนนั่น ก่อนที่จะไปถึงที่กางเขน – ดังนั้นพระองค์จึงทรงร้องขอพระบิดาแห่งสวรรค์ - "อับบา พระบิดา ...เอาถ้วยนี้ จากข้าพระองค์ไป" เสียงร้องนั่นแสดงให้เห็นว่า พระเยซูพระบุตรทรงอยู่กับพระเจ้าพระบิดา!

และเมื่อคุณจะกลับใจใหม่และรับเข้าเป็นเป็นบุตรบุญธรรมของพระเจ้าแล้ว คุณก็จะสามารถอธิษฐานเหมือนพระเยซูทรงทำ "อับบา พระบิดา"

หันหลังให้กับความบาปของคุณและเข้ามาไว้วางใจในพระเยซู ในวเลานั้นพระโลหิตของพระองค์จะชำระบาปของคุณและพลังแห่งการฟื้นคืนพระชนม์ของพระองค์จะเปิดใจของคุณ และคุณจะได้รับการรับรองโดยพระเจ้า! คุณจะเป็นลูกของพระองค์ตลอดไป! จากนั้นคุณก็จะสามารถร้องเพลงนี้ "ฉันเป็นลูกของกษัตริย์" -

ฉันเคยเป็นคนแปลกหน้าและจรจัดอยู่ในโลก
   คนบาปโดยการเลือกและคนต่างด้าวโดยกำเนิด
แต่ฉันได้รับเป็นลูกบุญธรรมชื่อของฉันถูกเขียนลงไป
   ทายาทแห่งคฤหาสน์เสื้อคลุมและมงกุฎ
ฉันเป็นลูกของกษัตริย์
   กับพระเยซูพระผู้ช่วยของฉัน ฉันเป็นลูกของกษัตริย์
(“A Child of the King” โดย Harriet E. Buell, 1834-1910).

และคุณก็จะสามารถร้องเพลงพร้อมกับ ชาร์ลส์ เวสลีย์,

พระเจ้าของฉันคือผู้ทรงคืนดี ฉันได้ยินเสียงของพระองค์
   พระองค์ทรงรับฉันให้เป็นลูกของพระองค์
ด้วยใจที่มั่นคงตอนนี้ฉันเข้ามาใกล้และ "พระบิดา อับบา พระบิดา" ร้องว่า
   และ "พระบิดา อับบา พระบิดา" ร้องว่า
(“Arise! My Soul, Arise!” โดย Charles Wesley, 1707-1788).

จงเข้ามาที่พระคริสต์ด้วยความเชื่อ วางจใจในพระองค์คูณก็จะสามารถเป็นลูกของพระเจ้าได้! พระคริสต์ทรงชำระบาปของคุณ ด้วยฤทธิ์อำนาจแห่งการฟื้นพระชนม์ของพระองค์ กรุณาลุกจากที่นั่งของท่านเดินออกไปข้างหลังของห้องนี้ ดร. คาเกนจะพาพวกท่านไปยังห้องเงียบๆเพื่อพูดคุย ออกไปได้ ดร ชาน กรุณานำเราอธิษฐานเผื่อคนเหล่านี้ อาเมน

(จบการเทศนา)
คุณสามารถอ่านบทเทศนาของ ดร. ฮิวเมอร์ ได้ในแต่ละอาทิตย์ทางอินเตอร์เนทได้ที่
www.realconversion.com. (กดที่นี่) “บทเทศนาในภาษาไทย”

คุณสามารถส่งอีเมล์ถึง ดร. ไฮเมอร์ส ที่ rlhymersjr@sbcglobal.net
– หรือเขียนจดหมายส่งไปให้เขาที่ P.O. Box 15308, Los Angeles, CA 90015.
หรือโทรศัพท์ถึงเขาที (818) 352-0452.

หมายเหตุ: ต้นฉบับของบทเทศนาเหล่านี้ไม่ได้สงวนลิขสิทธิ์
คุณสามารถนำไปใช้โดยที่ไม่ต้องขออนุญาตจาก ดร. ไฮเมอร์ส
แต่อย่างไรก็ตามข้อความทั้งหมดของ ดร. ไฮเมอร์ส
ที่อยู่ในรูปวิดีโอนั้นมีการสงวนลิขสิทธิ์และต้องได้รับการอนุญาตเท่านั้นถึงจะสามารถนำมาใช้ได้

อ่านพระคัมภีร์ก่อนเทศนาโดย อาเบล พลูโฮมมี: กาลาเทีย 4:3-7
ร้องเพลงเดี่ยวพิเศษโดย มร. เบนจามิน คินเคด กริฟฟิท์:
“A Child of the King” (โดย Harriet E. Buell, 1834-1910).


โครงร่างของ

การเป็นลูกบุญธรรม

โดย ดร. อาร์ เอล์ ไฮเมอร์ส จูเนียร์

“และเพราะท่านเป็นบุตรแล้ว พระเจ้าจึงทรงใช้พระวิญญาณแห่งพระบุตรของพระองค์เข้ามาในใจของท่าน ร้องว่า “อับบา” คือพระบิดา” (กาลาเทีย 4:6)

I.   หนึ่ง พระธรรมข้อนี้พูดถึงเรื่องการรับรองความเป็นบุตร
กิจการ 17:29; กาลาเทีย 4:5.

II.  สอง ข้อนี้พูดถึงการสถิตอยู่ของพระวิญญาณบริสุทธิ์ในผู้ที่กลับใจใหม่ โรม 10:10; ลูกา 15:28.

III. สาม พระธรรมข้อนี้พูดถึงความใกล้ชิดใหม่และความรักที่มีต่อพระเจ้า
โรม 8:15; มาระโก 14:36.