Print Sermon

เป้าหมายของเว็ปไซต์นี้คือจัดเตรียมบทเทศนาที่เขียนจากต้นฉบับ และในรูปแบบวีดีโอให้กับผู้รับใช้ และมิชชั่นนารีที่ไปรับใช้ในต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศในโลกที่สามที่ขาดแคลนพระคริสตธรรมหรือโรงเรียนอบรมพระคัมภีร์

ต้นฉบับของบทเทศนาเหล่านี้ถูกอ่านในคอมพิวเตอร์ประมาณ 1,500,000 เครื่อง และมากกว่า 221 ประเทศในแต่ละปี โปรดไปอ่านได้ที www.sermonsfortheworld.com ในขณะเดียวกันมีหลายร้อยคนดูวิดีโอบน YouTube และหลังจากนั้นคนเหล่านั้นก็จะย้ายจากดู YouTube มาอ่านเว็บไซต์ของเรา YouTube นำคนมาที่เว็บไซต์ของเรา บทเทศนาต้นฉบับนี้ถูกแปลออกเป็น 46 ภาษา และมีคนอ่านในคอมพิวเตอร์มากถึง 120,000 ทุก ๆ เดือน บทเทศนาต้นฉบับนี้ไม่สงวนลิขสิทธิ์ อนุญาตให้นักเทศนาสามารถนำไปใช้เทศน์ได้ นอกจากนี้ยังมีในรูปแบบวีดีโอเป็นร้อย ๆ ซึ่งเทศน์โดย ดร. ไฮเมอร์ส และนักศึกษาของท่าน บทเทศนาต้นฉบับไม่สงวน แต่จะสงวนเฉพาะในรูปแบบวีดีโอ กรุณาคลิกที่นี่เพื่อเรียนรู้ว่าจะสนับสนุนการประกาศพระกิตติคุณไปทั่วโลกได้อย่างไร

ตอนที่คุณเขียนหนังสือไปให้ ดร. ไฮเมอร์ส บอกท่านเสมอว่าคุณเขียนมาจากประเทศอะไร หรือท่านไม่ได้ตอบคุณ อีเมล์ของ ดร. ไฮเมอร์ส คือ rlhymersjr@sbcglobal.net




พระนามต่างๆของพระเยซู

THE NAMES OF JESUS
(Thai)

โดย ดร. อาร์ เอล์ ไฮเมอร์ส จูเนียร์
by Dr. R. L. Hymers, Jr.

เทศนาในตอนเย็นของวันที่ 16 เดือน ธันวาคม ค.ศ. 2012 ณ คริสตจักร
แบ๊บติสต์แห่งนครลอสแอนเจลิส
A sermon preached at the Baptist Tabernacle of Los Angeles
Lord’s Day Evening, December 16, 2012

“ด้วยมีเด็กคนหนึ่งเกิดมาเพื่อเรา มีบุตรชายคนหนึ่งประทานมาให้เรา และการปกครองจะอยู่ที่บ่าของท่าน และท่านจะเรียกนามของท่านว่า “ผู้ที่มหัศจรรย์ ที่ปรึกษา พระเจ้าผู้ทรงมหิทธิฤทธิ์ พระบิดานิรันดร์ องค์สันติราช” (อิสยาห์ 9:6)


ดร. หลุยส์ ที ทัลบอต (1889-1976) เป็นบาทหลวงของคริสตจักรใหญ่แห่งหนึ่งตั้งอยู่ถัดจากห้องสมุดประชาชน ห่างประมาณแปดช่วงตึกทางทิศเหนือจากโบสถ์ของเราในศูนย์กลางเมืองของ ลอสแอนเจลิส ดร. อาร์เอทอร์รีย์ เป็นผู้ก่อตั้งคริสตจักรนี้ แต่ตอนที่ ดร. ทัลบอต มาดำรงตำแหน่งนั้นสมาชิกลดลงจาก 5,000 คนจนบางตา และท่านได้อยู่ช่วยจนสามารถจ่ายค่าซื้อสถานที่เรียนร้อย แต่ท่านก็ได้ลาออกจากคริสตจักรนั่นด้วยท่าทีไม่ค่อยดีนะ ท่านก็นำสมาชิกมากมายเข้ามาในคริสตจักร ตอนที่ท่านเกษียณอายุ ดร. เจ เวอนอน เมคกี ได้มารับช่วงต่อ ผมรู้ว่ามีผู้รับดีๆหลายคนมารับใช้ที่นั่น บุคคลอย่าง ดร. เอ็ม อาร์ ดีฮาน ดร. วิลบูรณ์ เอ็ม สมิท ดร. อาร์ จี ลี ดร. จี บีอิวเชมป์ วิสก์ และ ดร. ดีส์ ฮิวลิส์ ต่างก็เคยไปประกาศที่ประเทศจีนและไต้หวัน แต่ ดร. ทัลบอต คือบุคคลที่สามารถพาสมาชิกจัดซื้อสถานที่ให้มาเป็นจองคริสตจักรแม้ในอยู่ในช่วงที่สถานะการเงินของคริตจักรไม่ค่อยดีนะ ในขณะเดียวกันยังส่งมิชั่นนารีมากมายออกไปรับใช้พระเจ้า ในช่วงปี 1930 และ 1940 ดร. ทัลบอต,ได้รับความนิยมมากในการประกาศข่าวประเสริฐทางวิทยุ ผมรู้จักท่านและภรรยาของท่าน ตอนที่ท่านมากล่าวพระวัจนะที่คริสตจักรของเราก่อนที่ท่านจะเสียชีวิต และนี่คือคำพูดของท่าน

      สิ่งหนึ่งที่สวยงามที่ในวันคริสตมาสที่เราควรจะได้ยินได้ฟัง…คือตอนที่เราเฉลิมฉลองวันเกิดของพระเป็นเจ้าจากเมสิยาห์ของเฮนเดล ในหัวข้อชื่อ “เด็กน้อยทรงบังเกิดมาเพื่อพวกเรา” แม้แค่เราคิด ก็มีเสียงดนตรีดังอยู่ในหู:
      “ด้วยมีเด็กคนหนึ่งเกิดมาเพื่อเรา มีบุตรชายคนหนึ่งประทานมาให้เรา และการปกครองจะอยู่ที่บ่าของท่าน และท่านจะเรียกนามของท่านว่า “ผู้ที่มหัศจรรย์ ที่ปรึกษา พระเจ้าผู้ทรงมหิทธิฤทธิ์ พระบิดานิรันดร์ องค์สันติราช” (อิสยาห์ 9:6)
      “เด็กน้อยทรงบังเกิดมาเพื่อพวกเรา” ช่างสวยงามและมหัศจรรย์ “ร้องฮาเลลูยา” – พระผู้ทรงสง่างาม ทรงสมควรรับการสรรเสริญ ทรงประเสริฐ! ฮันเดล! ขอมอบเพลงนี้ให้กับริสเตียนและนักศึกษาพระคริสตธรรม หรือพระองค์อาจจะไม่เคยได้แต่งนี้ส่วนใหญ่ที่สวยงามของออราทอริโอ"พระเมศิยาห์" ... อ่านไปทีละหน้าเราคุณจะพบในพันสัญญาเดิมทรงพยากรณ์ถึงพระผู้ช่วยให้รอดและกษัตริย์ เรื่องราวการทรทุกข์ของพระองค์ การสิ้นพระชนม์ เป็นขึ้นมาจากความตาย และเสด็จสู่สวรรค์ และพยากรณ์ถึงการเสด็จมาครั้งที่สองของพระองค์ด้วยฤทธิ์อำนาจและกอรปด้วยสง่าราศี….เราให้ตั้งใจอ่านบมเพลงของฮัมเดลเกี่ยวกับ “พระเมศิยาห์” จะพบว่านักแต่งเพลงทั้งหลายไม่เพียงแต่กล่าวถึงพระองค์ แต่เขายังรักพระองค์ผู้ที่เขากล่าวถึงนั้น โปรดจำไว้ว่า “พระนามของพระองค์ทรงเรียกว่า วิเศษ ผู้ทรงให้คำปรึกษา พระเจ้าผู้ยิ่งใหญ่ พระบิดาผู้ทรงดำรงนิรันดร์ กษัตริย์ผู้รักสินติภาพ” (Louis T. Talbot, D.D., “The Names of Our Lord”).

พระนามที่ทรงมอบให้กับพระเยซูในพระคัมภีร์นั้นสำคัญมากๆ และพระคัมภีร์ก็เรียกพระนามของพระองค์แตกต่างออกไป เช่น พระผู้ช่วยให้รอด พระคริสต์ ลูกแกะของพระเจ้า อิมมานูเอล พระบุตรของพระเจ้า บุตรของมนุษย์ พระคำ พระผู้บริสุทธิ์ พระผู้ไถ่ ชิวโล ผู้ทรงสันติภาพ ขอให้เรามาคิดถึงชื่อเหล่านี้สักนิดหนึ่งในค่ำคืนนี้

I. หนึ่ง พระนามของพระองค์สมควรเรียกว่าสง่างาม

สเปอร็เจียนกล่าวว่าพระเยซูทรงสง่างามในสมัย๘ณะที่พระองค์ยังดำรงอยู่ในโลกนี้ ทรงเป็นบุตรที่รักของพระบิดายังที่โลกไม่เคยมีมาก่อน พระนามของพระองค์เป็นที่ชอบพระทัยพระบิดายิ่งนัก บุตรที่รัก ไม่ใช่สิ่งที่ถูกสร้างมาแต่ “ทรงเป็นพระเจ้าและพระเจ้า” พระลักษณะของพระองค์นั้นทรงสง่างาม ในรูปกายที่เป็นมนุษย์ เราเห็นบุตรน้อยนอนอยู่ในรางหญ้าที่เบ็ธเลเฮ็ม ทรงเป็รทารกน้อยที่สง่างาม พระเจ้าทรงสถิตกับเรา คืออิมมานูเอลของเรา! พระองค์ทรงสง่างามในตลอดระยะเวลาที่พระองค์ดำรงอยู่ในโลกนี้ พระเยซูแห่งนาซาเร็ธทรงเป็นกษัตริย์แห่งสวรรค์ แม้พระองค์ทรงดำเนินชีวิตบนโลกอย่างผู้ยากไร้ ถูกดูหมิ่น และข่มเหง ถูกใส่ร้าย ซึ่งผมอาจไม่เข้าใจ แต่ผมรักพระองค์ตราบเท่าชีวิตจะหาไม้พราะเหตุการทนทุกข์ของพระองค์ พระองค์ทรงลดฐานะของพระองค์เพื่อช่วยคนบาปอย่างผม แต่ผมก็ไม่เคยเข้าใจเลยถึงสิ่งนั้น ตลอดชีวิตของพระองค์ทรงสมควรเรียกสง่างาม!

ตอนที่เห็นพระองค์ทรงสิ้นพระชนม์บนไม้กางเขน เห็นพระองคืแบกบาปของคุณลงบนพระกายของพระองค์ เห็นตะปูตอกที่มือและขาของพระองค์ เห็นพระโลหิตของพระองค์ หลังที่ถูกเฆี่ยนและศีรษะที่สวมด้วยมงกุฏหนาม แล้วพระองค์เสด็จจากสวรรค์มาช่วยผม ความจริงพระนามของพระองค์คือสง่างาม! พระเยซูทรงโศกเศร้าเหมือนเช่นเราหรือเปล่า? รักเหมือนอย่างเราด้วยหรือเปล่า? ความรักของพระองค์ไม่มีวันสิ้นสุด – รักนี้ทำให้พระองค์ต้องทนทุกข์ รักนี้ทำให้พระบิดาในสวรรค์จึงต้องโกรธ เป็นความเมตตาที่ไม่มีวันสิ้นสุด พระองค์ได้ช่วยเราให้รอดพ้นจากความบาปและพ้นจากนรกที่เราควรจะลงไปที่นั่น “พระนามของพนะองค์สมควรเรียกสง่างาม”

แต่เห็นพระองค์เป็นขึ้นมาจากความตาย พระเจ้าไมได้ปล่อยให้จิตวิญญาณของพระองค์อยู่ที่นรก หรือปล่อยให้การทนทุกข์ของพระองค์จบอย่างไร้ค่า! พระองค์เป็นขึ้นมาจากความตาย พระองค์ทรงเก็บผ้าที่บังพระพักต์ของพระองค์แล้วปล่อยลงสู่พื้น แผ่นหินที่ประตูถ้ำเลื่อนออก พระองค์ทรงเสด็จออกจากถ้าเก็บศพในตอนเช้า “พระนามของพระองค์ทรงสมควรเรียกสง่างาม”

ตอนนี้พระองค์เสด็จไปหาพระบิดา เขาทั้งหลายเหงยหน้าเห็นพระองค์เสด็จขึ้นไป และทูตสวรรค์บอกว่าพระองค์จะเสด็จมาอีกครั้งหนึ่ง – พร้อมกับกลุ่มเมฆที่เขาเห็นพระองค์เสด็จไปพร้อมกับก้องเมฆ “พระนามของพระองค์ทรงสมควรเรียกสง่างาม”

II. สอง พระนามของพระองค์สมควรเรียกว่าที่ปรึกษา

มีน้อยคนนักที่รับฟังคำตักเตีอนของพระองค์ในขณะที่พระองค์ยังอยู่ในโลกนี้ คำปรึกษาของพระองค์ยังถูกปฏิเสธโดยคนที่ไม่เชื่อแม้ในค่ำคืนนี้ แม้ตาเราผู้ที่รักพระองค์ยังขาดการเชื่อฟังในสิ่งที่พระองค์ทรงบอกเรา เราทำตามในสิ่งที่เราพอใจ ใจร้อน และลืมในสิ่งที่ “พระองค์ทรงกระทำให้เรา”

แต่ถ้าพระองค์เสด็จมาพระองค์จะไม่เป็นเช่นนี้อีก แล้วคนทั้งหลายจะเรียกพระองค์ว่า “ผู้ให้คำปรึกษา” ตอนที่พระองค์ประทับอยู่บนพระที่นั่งของดาวิด แล้วคนทั้งหลายจะแสวงหาและเชื่อฟังคำปรึกษาของพระองค์ พระเยซูทรงเป็นผู้ชอบธรรม และกษัตริย์แห่งกษัตริย์ทั้งหลาย และคนจะเรียกพระองค์ว่า “ผู้ให้คำปรึกษาให้กับโลก” เหมือนอย่างที่ ดร. วัตต์ กล่าวว่า

พระเยซูทรงครอบครองทุกแห่งหนภายใต้ดวงอาทิตย์
   พระองค์ทรงเสด็จทั่วทุกทิศ
อาณาจักรของพระองค์ขยายไปทั่วทุกแห่งหน
   จนถึงดวงจันทร์และไม่มีที่สิ้นสุด
(“Jesus Shall Reign” by Dr. Isaac Watts, 1674-1748).

III. สาม พระนามของพระองค์สมควรเรียกว่าพระเจ้าผู้ยิ่งใหญ่

ทุกวันนี้ผู้คนไม่ได้เรียกชื่อของพระองค์นี้ มีอาจารย์ตามมหาลัยบางคนยังเรียกพระองค์ต่างๆกันไปในทางที่ผิดๆเช่น ชาวฮินดูเรียกพระองค์ว่า “อวตาร” ชาวมุสลิมเรียกพระองค์ว่า “ผู้เผยพระวัจนะ” กลุ่มพยานพยะโฮวาห์เรียกพระองค์ว่า ผู้ที่ถูกสร้าง แต่พระคัมภีร์เรียกพระองค์ว่า “พระเจ้าผู้ยิ่งใหญ่” ฮาเลลูยา!!! พระองค์ทรงเป็นพระเจ้าผู้ยิ่งใหญ่ บุคคลที่สองแห่งตรีเอกานุภาพ! ทุกสิ่งไม่ว่าในสวรรค์หรือในโลกนี้พระองค์เป็นผู้สร้าง “พระเจ้าผู้ยิ่งใหญ่” นั่นคือพระนามของพระเยซู!

“ยิ่งใหญ่” – คำนี้หมายถึง! พระองค์เป็นแหล่งแห่งฤทธิ์อำนาจ พลัง และพระบารมีต่างๆ! พลังอำนาจของพระองค์ทำให้มีโลกนี้ พระสุรเสียงของพระองค์ทรงเป่าความชั่วออกไป เป็นแสงสวรรค์ที่ขจัดความมืด เอาชนะความชั่วและความตายมามีชีวิตตลอดไป! โดยอำนาจของพระองค์ทุกสิ่งที่ทรงสร้างนั้นสำเร็จตามพระประสงค์ของพระองค์ ดอกไม้ทุกชนิด นกทุกชนิด ต้นไม้ทุกชนิด ภูเขาทุกลูก ทุกหุเหว และทุกเสียงต่างก็เรียกพระนามของพระคริสต์! พระนามของพระองค์จึงควรเรียกว่า สง่างาม ผู้ให้คำปรึกษา และพระเจ้ายิ่งใหญ่

IV. สี่ พระนามของพระองค์สมควรเรียกว่าพระบิดาผู้ทรงนิรันดร์กาล

สำหรับพระนามนี้สูงเกินกว่าที่ผมจะอธิบายได้ แต่ผมขออ้างคำพูดของสเปอร์เจียน นักเทศน์ผู้ยิ่งใหญ่ ท่านกล่าวว่า “พระนามพระเจ้าของเรานั้นมีค่าสูงส่ง ตอนนี้เราไม่ได้กล่าวถึงพระเจ้าพระบิดา แต่พระบุตร ต้องเข้าใจว่าพระบุตรไม่ใช่พระบิดา และพระบิดาก็ไม่ใช่พระบุตรเช่นกัน [นี่] คือสิ่งที่ต้องเชื่อให้ถูกและพิจารณาอย่างรอบคอบ…พระบิดาไม่ใช่พระบุตร และพระบุตรก็ไม่ใช่พระบิดา เนื้อหาบทเทศนาของผมนั้นไม่ได้มุ่งไปที่ตำแหน่งและหัวข้อเกี่ยวกับตรีเอกานุภาพที่เกี่ยวข้องซึ่งกันและกัน แต่ [จะเน้นหนัก] ไปที่ความสัมพันธ์ระหว่างพระเยซูกับพวกเรา พระองค์เสด็จมาเพื่อเรา “พระองค์ทรงเป็นพระบิดาผู้ทรงนิรันดร์กาล” (C. H. Spurgeon, “His Name – The Everlasting Father”)

พระองค์ดำรงนิรันดร์กาล “ทรงเหมือนเดิมในเวลาวานนี้ และเวลาวันนี้ และต่อๆไปเป็นนิจกาล” (ฮีบรู 13:8) พระองคืทรงเป็นอย่างนั้น พระองค์ไม่เคยเปลี่ยนแปลง เรียกพระองค์ว่า “พระบิดา” พระเยซูทรงเป็นพระบิดาตรงไหน? พระองค์ทรงพระบิดาอย่างแท้จริง ทรงเป็นศีรษะทุกสิ่งที่ถูกสร้าง และคืออาดามคนสุดท้าย เพราะอาดามคนแรกเราจึงถูกสาปแช่งเพราะท่านคือบิดาของทุกเผ่าพันธุ์ อาดามคือพ่อของเรา แต่ตอนนี้เราเป็นของพระคริสต์ พระองค์ทรงเป็นศีรษะของคนทั้งหลาย พระองค์ทรงเป็นบิดาของคนของพระองค์ อาดามไม่ใช่พ่อของเรา “ตลอดไป” แต่พระเยซูทรงเป็น ทรงเป็นศีรษะแห่งพันธสัญญาใหม่ พระองค์คือบิดาของผู้เชื้อทุกคน พระบิดาแห่งคริสเตียน พระบิดาแห่งแผนการทรงไถ่โดยทางพระคุณ ถ้าคุณยังไม่ได้รับเชื่อ อาดามยังเป็นพ่อของคุณ แต่ถ้าคุณได้รับช่วยกู้โดยพระองค์ ตอนนี้พระเยซูทรงเป็นบิดาแห่ง “นิจจกาลของคุณ” และพระผู้ไถ่จิตวิญญาณของคุณ

V. ห้า พระนามของพระองค์สมควรเรียกว่าเจ้าชายแห่งทรงสันติสุข

ตอนที่พระองค์ทรงบังเกิดที่เบ็ธเลเฮ็มนั้น มีทูตสวรรค์ได้มาปรากฏให้กับคนเลี้ยงแกะ และบอกพวกเขาว่า

“รัศมีภาพจงมีแด่พระเจ้าในที่สูงสุด และบนแผ่นดินโลกจงมีสันติสุข และสันถวไมตรีจงมีแก่มนุษย์ทั้งปวง” (ลูกา 2:14)

พระเยซูนำสันติสุขมาให้เรา เราจึงมีสันติสุขกับพระเจ้าผ่านทางพระเยซูคริสต์ พระวัจนะกล่าวว่า “เหตุฉะนั้นเมื่อเราเป็นคนชอบธรรมโดยความเชื่อแล้ว เราจึงมีสันติสุขกับพระเจ้าทางพระเยซูคริสต์องค์พระผู้เป็นเจ้าของเรา” (โรม 5:1) นั่นแหละคือสาเหตุที่พระองค์สิ้นพระชนม์บนไม้กางเขน เพื่อไถ่ความบาปของเรา และนำเราคืนดีกับพระเจ้า พระองค์ “นั้นให้สิ่งสารพัดกลับคืนดีกับพระองค์เอง โดยพระองค์นั้นข้าพเจ้าพูดได้ว่า ไม่ว่าสิ่งนั้นจะอยู่ในแผ่นดินโลกหรือในท้องฟ้า พระองค์ทรงทำให้มีสันติภาพโดยพระโลหิตแห่งกางเขนของพระองค์” (โคโลสี 1:20)

แต่ตอนพระองค์เสด็จมาอีกครั้งหนึ่งพร้อมกับกลุ่มเมฆแห่งสวรรค์ “เจ้าชายแห่งสันติสุข” จะสร้างสันติสุขบนโลกนี้ และในวันนั้น พระองค์จะ “ทรงวินิจฉัยระหว่างบรรดาประชาชาติ และจะทรงตำหนิชนชาติทั้งหลายเป็นอันมาก และเขาทั้งหลายจะตีดาบของเขาให้เป็นผาลไถนา และหอกของเขาให้เป็นขอลิด ประชาชาติจะไม่ยกดาบต่อสู้กันอีก เขาจะไม่ศึกษายุทธศาสตร์อีกต่อไป” (อิสยาห์ 2:4)

“ด้วยมีเด็กคนหนึ่งเกิดมาเพื่อเรา มีบุตรชายคนหนึ่งประทานมาให้เรา และการปกครองจะอยู่ที่บ่าของท่าน และท่านจะเรียกนามของท่านว่า “ผู้ที่มหัศจรรย์ ที่ปรึกษา พระเจ้าผู้ทรงมหิทธิฤทธิ์ พระบิดานิรันดร์ องค์สันติราช” (อิสยาห์ 9:6)

ในค่ำคืนนี้ผมขอธิษฐานเพื่อคุณจะได้มาวางใจในพระคริสต์ จากพระนามที่ประเสริฐเหล่านี้แสดงให้เห็นแล้วว่าพระองค์ทรงสมารถทำเพื่อคุณ พระองค์สามารถช่วยจิตวิญญาณของคุณ และนำคุณกลับบ้านด้วยสง่าราศี พระโลหิตของพระองค์จะชำระทุกสิ่งไม่ดีของคุณออกไป พระโลหิตของพระองค์มีค่าสำหรับผม! อาเมน อย่างที่ ยอห์น ผู้ให้บัพติสมากล่าวว่า “จงดูพระเมษโปดกของพระเจ้า ผู้ทรงรับความผิดบาปของโลกไปเสีย” (ยอห์น 1:29)

ถ้าคุณอยากจะคุยกับ ดร. คาเกนและผมเกี่ยวกับการที่พระเยซูทรงช่วยคุณออกจากบาป กรุณาลุกออกจากที่นั่งของท่านเดินไปที่ข้างหลังของห้องนมัสการนี้ ดร. เชน กรุณานำเราอธิษฐาน

(จบการเทศนา)
คุณสามารถอ่านบทเทศนาของ ดร. ฮิวเมอร์ ได้ในแต่ละอาทิตย์ทางอินเตอร์เนทได้ที่
www.realconversion.com. (กดที่นี่) “บทเทศนาในภาษาไทย”

You may email Dr. Hymers at rlhymersjr@sbcglobal.net, (Click Here) – or you may
write to him at P.O. Box 15308, Los Angeles, CA 90015. Or phone him at (818)352-0452.

อ่านพระคัมภีร์ก่อนเทศนาโดย ลีคยูดง: มัทธิว 1:18-25.
ร้องเพลงเดี่ยวพิเศษโดย มร. เบนจามิน คินเคด กริฟฟิ:
“What Child Is This?” (โดย William C. Dix, 1837-1898).